มีรายงานเสียงระเบิดจากการโจมตีด้วยขีปนาวุธหลายสิบลูกของรัสเซียเกิดขึ้นในกรุงเคียฟและหลายเมืองทั่วประเทศ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น โดยในกรุงเคียฟพบว่าอาคารพักอาศัยอย่างน้อย 2 หลังใกล้ที่ทำการรัฐบาลท้องถิ่นถูกขีปนาวุธโจมตี
วิตาลี คลิตช์โก นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ รายงานว่าขีปนาวุธหลายลูกถูกยิงตกด้วยระบบป้องกันการโจมตีทางอากาศ ขณะที่ที่ปรึกษารัฐมนตรีกลาโหมยูเครนประเมินว่ารัสเซียได้ยิงขีปนาวุธราว 70 ลูก โจมตีทั่วยูเครน
ทั้งนี้ บรรยากาศในกรุงเคียฟและหลายเมือง อาทิ เมืองลวิฟ ทางตะวันตก มีเสียงสัญญาณไซเรนดังต่อเนื่อง โดยทางการประกาศเตือนประชาชนให้อยู่ในที่หลบภัย ซึ่งเบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บจากการโจมตีที่เกิดขึ้น
การโจมตีของรัสเซียครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้แทนเข้าร่วมการประชุม G20 ที่เกาะบาหลีของอินโดนีเซีย ได้เดินทางกลับไปยังรัสเซียแล้ว ก่อนที่การประชุมจะเสร็จสิ้นในวันพรุ่งนี้ (16 พฤศจิกายน)
ขณะที่ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติได้โหวตรับรองมติด้วยคะแนนเสียง 94 เสียง จากชาติสมาชิกทั้งหมด 193 ประเทศ กำหนดให้รัสเซียต้องรับผลทางกฎหมาย จากการกระทำผิดกฎหมายระหว่างประเทศทั้งหมดในการทำสงครามบุกยูเครน ซึ่งรวมทั้งการชดใช้แก่ผู้ที่ได้รับอันตราย รวมถึงความเสียหายใดๆ ที่เกิดจากการกระทำดังกล่าว
โดยรัสเซียได้แสดงความไม่พอใจและปฏิเสธมติดังกล่าว ขณะที่ วาสซิลี เนเบนเซีย เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำ UN ระบุว่าการลงมติดังกล่าวเป็น ‘โมฆะทางกฎหมาย’ และกล่าวหาชาติตะวันตกว่า “พยายามทำให้ความขัดแย้งแย่ลง”
อ้างอิง: