เทสล่า ไม่ได้เป็นเพียงบริษัทรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเท่านั้น แต่การวิเคราะห์ล่าสุดของ Nikkei Asia พบว่า ยักษ์ใหญ่รถไฟฟ้าทำกำไรได้มากกว่า Toyota ถึง 8 เท่าต่อคัน ทั้งที่ยอดขายน้อยกว่ามาก
ไตรมาสเดือนสิงหาคม-ตุลาคม 2022 Tesla รายงานกำไรสุทธิ 3.29 พันล้านดอลลาร์ ในขณะที่ Toyota มีตัวเลขอยู่ที่ 4.342 แสนล้านเยน เทียบเท่ากับ 3.15 พันล้านดอลลาร์ ตามอัตราแลก 138 เยนต่อดอลลาร์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- อากิโอะ โทโยดะ ซีอีโอ Toyota เผยแล้ว เหตุผลที่ไม่กระโจน ‘สู่สายพาน EV’ พร้อมย้ำ รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ยังไม่ใช่กระแสหลัก
- อนาคตเริ่มมืดมน ปัญหาชิปยืดเยื้อ Toyota เผย กำไรลดลง 25% ต่ำกว่าคาด หลังลดเป้าการผลิตรถยนต์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
- ‘Tesla’ ประกาศหั่นราคาขายในตลาดจีน 9% กูรูหวั่นจุดชนวนสงครามราคารถยนต์ไฟฟ้า
ความสำเร็จของ Tesla ส่วนใหญ่มาจากความสามารถในการทำกำไรของรถยนต์แต่ละคัน เทียบให้เห็นภาพ ในขณะที่ Toyota ขายได้ 2.62 ล้านคัน ซึ่งมากกว่า Tesla 7.6 เท่าที่ขายได้ 344,000 คัน
Toyota ทำยอดขายได้มากกว่าก็จริง แต่หากเทียบในแง่ของผลกำไรต่อคันจะพบว่าแพ้หลุดลุ่ย เพราะ Toyota มีกำไรสุทธิต่อคันอยู่ที่ 1,200 ดอลลาร์ น้อยกว่า 8 เท่าเมื่อเทียบกับ Tesla ที่มีกำไร 9,570 ดอลลาร์ต่อคัน
เชื่อกันว่า Tesla เป็นผู้นำอุตสาหกรรมในแง่ของกำไรสุทธิต่อรถยนต์ แซงหน้ารถยนต์หรูอย่าง Mercedes-Benz โดยกำไรต่อคันของ Tesla เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะตั้งแต่เดือนเมษายน-มิถุนายน 2021 นักลงทุนตอบรับการเพิ่มขึ้นเป็นอย่างดีและมาร์เก็ตแคปสูงกว่า Toyota ถึง 3 เท่า
ช่องว่างของทั้ง 2 แบรนด์มาจากกลยุทธ์ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง Toyota นำเสนอรถยนต์หลากหลายประเภท ตั้งแต่รถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินไปจนถึงรถยนต์ไฮบริด รถยนต์ไฟฟ้า และเซลล์เชื้อเพลิง และมีหลายขนาดและราคา
ในขณะเดียวกัน Tesla ได้มุ่งเน้นที่ EV เท่านั้น Model Y และ Model 3 มียอดขายมากกว่า 90% ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าในสองปี และด้วยความมั่นใจในแบรนด์ที่แข็งแกร่ง Tesla ไม่ลังเลที่จะขึ้นราคาเพื่อส่งต่อต้นทุนวัสดุที่สูงขึ้นให้กับลูกค้า นอกจากนี้ยังเริ่มเสนอซอฟต์แวร์ขับเคลื่อนด้วยตนเองซึ่งสามารถทำกำไรได้เพิ่มขึ้นอีก
Tesla ยังขายโดยตรงทางออนไลน์ ซึ่งเป็นวิธีการที่ให้อัตรากำไรที่สูงกว่าการขายผ่านตัวแทนจำหน่าย ขณะเดียวกัน ‘อีลอน มัสก์’ อวดมานานแล้วว่า Tesla ไม่จ่ายค่าโฆษณาแบบดั้งเดิม ซึ่งเป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้นสำหรับแบรนด์ของผู้ผลิตรถยนต์ทั่วไปตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ในรายงานประจำปีของบริษัทปี 2021 Tesla เขียนว่า “ในอดีตเราสามารถสร้างการรายงานข่าวที่สำคัญของบริษัทและผลิตภัณฑ์ของเรา และเราเชื่อว่าเราจะทำเช่นนั้นต่อไป ความครอบคลุมของสื่อและการบอกต่อเป็นแรงผลักดันหลักสำหรับสร้างโอกาสในการขาย และช่วยให้เราบรรลุยอดขายโดยไม่ต้องโฆษณาแบบเดิมๆ และมีค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่ค่อนข้างต่ำ”
ทางด้าน Toyota ตั้งเป้าขายรถยนต์ไฟฟ้า 3.5 ล้านคันในปี 2030 แต่ปัจจุบัน bZ4X เป็นรุ่นที่ผลิตในปริมาณมากเพียงรุ่นเดียว ซึ่ง Toyota กำลังสำรวจทางเลือกอื่นๆ สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในปริมาณมากขึ้น
กระนั้นรถยนต์ไฟฟ้ายังคงเผชิญกับความท้าทาย “ในภูมิภาคที่ต้องพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นอย่างมาก รถยนต์ไฟฟ้าไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์” ผู้บริหารระดับสูงของ Toyota กล่าว นอกจากนี้ สถานีชาร์จที่ยังไม่เพียงพอ และความจำเป็นที่จะต้องมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเพิ่มเติม ยังเป็นหนึ่งในความท้าทายหลักอีกด้วย
ภาพ: Patrick Pleul – Pool / Getty Images
อ้างอิง: