กลายเป็นข่าวช็อกของวงการฟุตบอลชั่วข้ามคืน หลังจากเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา (4 พฤศจิกายน) ตามเวลาประเทศไทย เคราร์ด ปิเก้ ปราการหลังบาร์เซโลนาวัย 35 ปี ออกมาโพสต์คลิปวิดีโอผ่าน Twitter ส่วนตัว โดยมีใจความว่า เขาจะแขวนสตั๊ดจากวงการฟุตบอลอย่างเป็นทางการหลังลงเล่นเกมสุดท้ายของเขาที่สปอติฟายคัมป์นู เจอกับอัลเมเรีย ในคืนวันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายนนี้ (คืนวันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน เวลา 03.00 น. ตามเวลาประเทศไทย)
โดยช่วงหนึ่งของคลิปปิเก้กล่าวว่า “ฟุตบอลให้ทุกอย่างกับผม บาร์ซาให้ทุกอย่างกับผม รวมถึงกูเลส (แฟนบอลบาร์เซโลนา) ทุกคนก็ได้ให้ทุกอย่างกับผมเช่นกัน”
“และตอนนี้ที่ความฝันทั้งหมดของผมที่มีในวัยเด็กกลายเป็นจริงแล้ว ผมอยากจะบอกคุณว่า ผมตัดสินใจว่าตอนนี้มันถึงเวลาที่การเดินทางครั้งนี้จะจบลงแล้ว
“ผมพูดเสมอว่าจะไม่มีทีมอื่นหลังออกจากบาร์ซา และนั่นจะเป็นอย่างนั้น เกมวันเสาร์นี้จะเป็นเกมสุดท้ายของผมที่คัมป์นู
“หลังจากนี้ผมจะผันตัวไปเป็นแฟนบอลขาประจำ ผมจะคอยเชียร์ทีม ส่งต่อความรักที่มีต่อบาร์ซาให้กับลูกๆ ของผม เหมือนที่ครอบครัวเคยมอบให้ผมมาก่อน และคุณก็รู้จักผมดี ไม่ช้าก็เร็วผมจะกลับมาแน่ แล้วเจอกันที่คัมป์นู ‘บาร์ซาจงเจริญ ตลอดไป’”
สำหรับ เคราร์ด ปิเก้ เริ่มต้นเข้าสู่วงการฟุตบอลครั้งแรกด้วยการเป็นเด็กในสังกัดอคาเดมี ‘ลามาเซีย’ ของบาร์เซโลนา ก่อนจะย้ายไปหาประสบการณ์ในโลกกว้างกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2004 แต่ทว่าโอกาสในการลงเล่นให้ทัพ ‘ปีศาจแดง’ นั้นมีน้อยนิดมาก โดยอยู่กับทีมเป็นเวลา 4 ปี ลงสนามไปเพียง 23 นัด และช่วงครึ่งฤดูกาล 2006/07 ถูกปล่อยให้เรอัล ซาราโกซา ยืมตัวไป
จากนั้นปิเก้ถูกดึงตัวกลับมายังคัมป์นูอีกครั้งในปี 2008 และเริ่มสร้างผลงานในระดับเวิลด์คลาสกับทีมในชุดที่ถูกขนานนามให้เป็น ‘มนุษย์ต่างดาว’ โดยตลอดปี 2008 ถึงปัจจุบัน ปิเก้กลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ก มีส่วนในการพาทีมคว้าแชมป์ระดับสโมสรมามากมาย เช่น แชมป์ยูฟ่าแชมป์เปียนส์ลีก 4 สมัย (ร่วมกับแมนฯ ยูไนเต็ด 1 สมัยในปี 2008), แชมป์ลาลีกาลีก 8 สมัย, แชมป์สโมสรโลก 3 สมัย และอื่นๆ
ส่วนผลงานกับทีมชาติสเปนก็จัดว่ายอดเยี่ยมไม่แพ้กัน หลังอยู่กับทีมในชุดที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกในปี 2010 และแชมป์ยูโร 1 สมัยปี 2012
อ้างอิง: