เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (7 ก.พ.) คณะกรรมการควบคุมสื่อของปากีสถาน (Pakistan Electronic Media Regulatory Authority: PEMRA) ประกาศแบนไม่ให้รายการโทรทัศน์และสถานีวิทยุกระจายเสียงทุกสถานีออกอากาศเนื้อหาเกี่ยวกับการเฉลิมฉลองวันวาเลนไทน์ ตามคำตัดสินของศาลสูงสุดที่ประกาศไว้เมื่อปีที่แล้ว
อับดุล วาฮีด ผู้ร้องทุกข์ต่อศาลในกรุงอิสลามาบัดเมื่อช่วงต้นปี 2017 ชี้แจงว่า การเสียสละแม้กระทั่งชีวิตเพื่อความรักของชาวคริสเตียนนี้ทำให้ร้านค้าต่างๆ รวมถึงร้านอาหารต่างจัดโปรโมชันสินค้าพิเศษต่างๆ มากมายสำหรับคู่รักในช่วงวันวาเลนไทน์ การเฉลิมฉลองวันวาเลนไทน์มอมเมาประชาชน เป็นการแพร่ขยายความคิดและสิ่งที่ขัดต่อศีลธรรมอันดีงามภายในสังคมปากีสถาน
โดยการร้องเรียนต่อศาลให้ระงับการจัดเทศกาลแห่งความรักเกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีมัมนูน ฮุสเซน แสดงความเห็นเกี่ยวกับความคิดและวัฒนธรรมตะวันตกที่กำลังคุกคามค่านิยมอันดีงามของปากีสถาน “วันวาเลนไทน์ไม่มีความเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมของพวกเรา และเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง”
เมื่อปีที่ผ่านมา กระแสสั่งซื้อสินค้าลดราคาช่วงวัน Black Friday ในเดือนพฤศจิกายน ที่มักจะจัดขึ้นในสหรัฐฯ หลังจากวันขอบคุณพระเจ้าได้รับการโจมตีอย่างหนักจากกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรง ทำให้ธุรกิจจำนวนมากในสังคมมุสลิมรีแบรนด์และประกาศจัดเทศกาลลดราคาสินค้าในวัน White Friday หรือ Green Friday เป็นของตัวเองแทน เพื่อป้องกันกระแสโจมตีด้านวัฒนธรรม
ในปี 2013 ซาบีน มาห์มูด หนึ่งในสมาชิกกลุ่มเคลื่อนไหวทางสังคมคนสำคัญได้จัดแคมเปญ Pyaar Ko Ho Jaane Do (Let Love Happen) ขึ้นในเมืองท่าทางตอนใต้ของการาจี เพื่อเรียกร้องสิทธิ์ในการแสดงออกเกี่ยวกับความรักในช่วงวันวาเลนไทน์ เธอถูกข่มขู่หลายครั้งและถูกยิงเสียชีวิตจากฝ่ายต่อต้านในที่สุด
นายซาอัด อาซิซ ที่ถูกเชื่อว่าเป็นผู้ลงมือสังหารได้ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Pakistani Herald ว่า แน่นอนว่าการที่เธอสนับสนุนให้ชาวปากีสถานมีสิทธิ์แสดงความรักและเฉลิมฉลองในเทศกาลแห่งความรักทำให้เธอตกเป็นเป้าหมาย แต่นั่นไม่ใช่เพียงเหตุผลเดียว แต่เป็นเพราะเธอสนับสนุนกระแสเสรีนิยมและค่านิยมเกี่ยวกับทางโลกในสังคมปากีสถานมากจนเกินไป
และในทุกปี ชาวปากีสถานจำนวนไม่น้อยที่สนับสนุนเธอยังคงจัดแคมเปญ Pyaar Ko Ho Jaane Do (Let Love Happen) และระลึกถึงความกล้าหาญของเธอจนถึงปัจจุบัน
อ้างอิง: