×

RHG เครือโรงแรมใหญ่ Top 3 ของโลก กับความสำเร็จที่ยาวนานกว่า 75 ปี เดินหน้าสยายปีกรุกตลาดในไทย เน้น 3 แบรนด์อัตลักษณ์ ตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนและผู้ใช้บริการ [ADVERTORIAL]

โดย THE STANDARD TEAM
20.09.2022
  • LOADING...
เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป

กว่า 75 ปีมาแล้วที่ เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป (Radisson Hotel Group: RHG) ได้บุกเบิกและสั่งสมประสบการณ์ด้านธุรกิจโรงแรมและบริการ จากโรงแรมแรกในโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป ค่อยๆ ขยายโรงแรมไปตามประเทศต่างๆ จนถึงปัจจุบัน เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป มีโรงแรมในเครือมากกว่า 1,700 แห่ง ใน 120 ประเทศทั่วโลก และมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับว่าเป็น 1 ใน 3 ของเครือโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดและมีแรงขับเคลื่อนมากที่สุดในโลกที่กลุ่มนักธุรกิจและนักลงทุนให้การจับตามอง ด้วยโครงสร้างของการสร้างแบรนด์ทั้ง 9 แบรนด์ที่มีบุคลิกภาพโดดเด่น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สามารถตอบสนองทุกความต้องการของทั้งแขกผู้เข้าพัก เจ้าของโรงแรม และนักลงทุนได้เป็นอย่างดี 

 

เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป

 

ปัจจุบันเรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจโรงแรม โดยเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบริษัทจินเจียงอินเตอร์เนชั่นแนล (Jin Jiang International) ซึ่งเป็นกลุ่มโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของโลก อ้างอิงจากจำนวนห้องพักทั้งหมดที่มีมากกว่า 1,350,000 ห้องพัก ในโรงแรมกว่า 12,300 แห่งทั่วโลก ส่งผลให้เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป

 

ครองอันดับ 1 ในฐานะกลุ่มบริษัทโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย จีน และแอฟริกาตะวันออก

อันดับ 1 ในฐานะกลุ่มบริษัทผู้ดำเนินธุรกิจโรงแรมนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในรัสเซีย ยุโรปตะวันออก และอินเดีย

อันดับ 1 ในฐานะกลุ่มบริษัทที่มีการเติบโตในธุรกิจโรงแรมระดับหรูที่ใหญ่ที่สุดในแอฟริกา

อันดับ 1 ในฐานะกลุ่มบริษัทที่มีแบรนด์โรงแรมระดับบนที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และอันดับ 2 ในฐานะกลุ่มบริษัทโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป โมร็อกโก ฝรั่งเศส และนอร์ดิก

 

เมื่อเรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป ปักหมุดหมาย ประกาศแผนการขยายธุรกิจ ตั้งเป้าจะเปิดโรงแรมและรีสอร์ตในไทยให้ครบ 100 แห่งภายในปี 2568 จากปัจจุบันที่มีโรงแรมในประเทศไทยอยู่แล้วจำนวน 6 แห่ง (4 แห่งในกรุงเทพฯ และอีก 2 แห่งกำลังดำเนินการเปิดที่ภูเก็ตและพัทยา) จึงนับเป็นโอกาสดีของนักลงทุนในไทย

 

เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป

 

แคทรีน่า จีอานูกา ประธานเรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป เอเชียแปซิฟิก กล่าวถึงเหตุผลที่คิดอยากขยับขยายเครือโรงแรมในประเทศไทยว่า 

 

“ประเทศไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่นักเดินทางทั้งหลายหมายตาไว้ ยิ่งไทยประกาศยกเลิกมาตรการเข้าเมือง ไม่ต้องกักตัวหรือตรวจ RT-PCR ก่อนเข้าประเทศ ก็ยิ่งทำให้ชาวต่างชาติสนใจมาเที่ยวเมืองไทยมากขึ้น ช่วยให้การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัว

 

“เราจึงมุ่งมั่นและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ร่วมงานกับพันธมิตรของเรา เพื่อสร้างอนาคตที่สดใสในประเทศที่มีเสน่ห์แห่งนี้”

 

เธอบอกว่า การที่เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป วางแผนกลยุทธ์ที่ท้าทายเช่นนี้ นับเป็นการปรับรูปแบบทางธุรกิจเพื่อให้ตรงกับความต้องการของนักลงทุนโดยเฉพาะ

 

“การตอบสนองเชิงกลยุทธ์นี้มีที่มาจากแรงผลักดันทั้งภายในและภายนอกรวมกันคือ เป็นทั้งการเติบโตแบบออร์แกนิก (Organic Growth) ที่เกิดขึ้นด้วยศักยภาพขององค์กรเอง ไปจนถึงการควบรวมกิจการ และการทำสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิ์ในการบริหาร (Master License Agreements) ด้วย 

 

“ทุกแบรนด์ที่อยู่ภายใต้การบริหารของกลุ่มบริษัทในเครือเรดิสันจะมีโครงสร้างการออกแบบของแบรนด์และกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดไว้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น Radisson Collection โรงแรมคอลเล็กชันที่หรูหราที่สุด โดดเด่นด้วยสไตล์การออกแบบแนวร่วมสมัย ซึ่งคงความเป็นเอกลักษณ์ของพื้นถิ่น แต่มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงให้ทันยุคสมัย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และมอบประสบการณ์แบบเฉพาะตัว, Radisson Blu เป็นหนึ่งในแบรนด์ระดับบน ซึ่งเป็นที่รู้จักกันกว้างขวางมากที่สุด โดดเด่นด้วยสไตล์นำสมัยและใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อให้แขกได้สัมผัสประสบการณ์แห่งความสุขที่เป็นเอกลักษณ์อย่างแท้จริง และ Radisson โรงแรมระดับหรูที่ออกแบบให้มีความเป็นธรรมชาติน่ารื่นรมย์”

 

นอกเหนือไปจากโรงแรมที่ถือเป็นเรือธงของกลุ่มโรงแรม เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป ก็คิดจะมุ่งเจาะกลุ่มธุรกิจที่กำลังเติบโตอย่างรีสอร์ตและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ด้วย โดยเน้นเลือกทำเลที่ตั้งที่เป็นแหล่งธุรกิจและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ เช่น กรุงเทพฯ ภูเก็ต พัทยา เชียงใหม่ และเกาะสมุย

 

 

และพัฒนา Radisson Individuals แบรนด์น้องใหม่ล่าสุดในเครือเรดิสันที่กำลังเป็นกระแสในหมู่นักลงทุน เนื่องจากเป็นโรงแรมที่มีเอกลักษณ์และบุคลิกเฉพาะตัว นักลงทุนหรือเจ้าของโรงแรมสามารถออกแบบให้เป็นโรงแรมที่เหมาะสำหรับทุกกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว นักธุรกิจ หรือเป็นรีสอร์ตเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ แต่ยังคงมาตรฐานของแบรนด์เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป

 

เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป

 

ในขณะเดียวกันก็พยายามผลักดัน Park Inn by Radisson แบรนด์ระดับกลางค่อนไปทางระดับบน ที่ออกแบบการบริการอย่างพิถีพิถัน มีสีสันและชีวิตชีวา ตอบโจทย์ทุกความต้องการของแขก ทำให้แบรนด์เข้าถึงง่าย เป็นมิตร และ Radisson RED แบรนด์ไลฟ์สไตล์ที่ออกแบบสร้างสรรค์ให้มีลักษณะโดดเด่น เพื่อตอบรับไลฟ์สไตล์ในแบบเฉพาะตัว

 

เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป

 

การเซ็นสัญญาเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจระดับภูมิภาคกับกลุ่มบริษัทจินเจียงอินเตอร์เนชั่นแนลและบริษัทในเครือ ยังทำให้การขยายตัวของเรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป มั่นคงมากขึ้น ทำให้เครือเรดิสันได้รับสิทธิ์ในการบริหารและพัฒนาธุรกิจกับแบรนด์ 7 Days และ Metropolo รวมถึงมีการทำสัญญาอนุญาตและถือสิทธิ์หลักในการเป็นผู้ดำเนินงานบริหารจัดการธุรกิจของกลุ่มบริษัทในเครือจินเจียงอย่างโกลเด้น ทิวลิป (Golden Tulip) คีเรียด (Kyriad) และคัมพานิล (Campanile) จากลูฟวร์ โฮเทล กรุ๊ป (Louvre Hotels Group) ด้วย

 

เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป

 

มร.เดวิด เหงียน กรรมการผู้จัดการด้านยุทธศาสตร์ความร่วมมือในภูมิภาคอินโดจีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก กล่าวเสริมว่า “เนื่องจากประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดหลักที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ทีมงานของเรา รวมถึงตัวผม จึงตั้งตารอที่จะได้ร่วมงานกับพันธมิตรในประเทศ เพื่อขยายพอร์ตการลงทุนของกลุ่มบริษัทของเรา และเตรียมพร้อมรับการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวขาเข้า”

 

เขาบอกว่า การกลับมาของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มาเยือนประเทศไทยจะมีบทบาทสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จของกลุ่มโรงแรมเรดิสันและประเทศไทย

 

“ก่อนโรคระบาดจะเกิดขึ้น นักท่องเที่ยวชาวจีนมีสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 4 ของจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาทั้งหมดของประเทศ เมื่อการท่องเที่ยวขาออกจากประเทศจีนกลับมาดำเนินการอีกครั้ง ประเทศไทยจะเป็นหนึ่งในประเทศแรกๆ ที่ได้รับผลประโยชน์ ดังนั้นการเป็นพันธมิตรระหว่างเรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป กับจินเจียงอินเตอร์เนชั่นแนล จะสามารถสร้างอรรถประโยชน์จากตลาดนี้จำนวนมหาศาลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน นอกจากนี้ยังมีช่องทางการจองเป็นภาษาจีนและ การชำระเงินดิจิทัล เพื่อเข้าถึงสมาชิกทั้งหมดของลอยัลตี้โปรแกรมที่มีมากกว่า 182 ล้านคน”

 

ขณะเดียวกัน เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป เองก็ไม่ได้สนใจเพียงผลตอบแทน แต่ยังช่วยส่งเสริมและสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทยให้มีอนาคตที่ยั่งยืน บริษัทฯ ได้ให้คำมั่นสัญญาอย่างแน่วแน่กับแนวคิดในการจัดการเพื่อทำให้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมหรือผลิตภัณฑ์โดยกระบวนการกำจัดคาร์บอน (Carbon Net Zero) ภายในปี 2050 รวมถึงการจัดงานประชุมของโรงแรมในเครือเรดิสันทั้งหมดนั้นปลอดคาร์บอน 100% โดยร่วมมือกับผู้นำในภาคอุตสาหกรรมหลายองค์กร นอกจากนี้เรดิสัน โฮเทล กรุ๊ป ยังเป็นพันธมิตรของ Hotel Sustainability Basics ซึ่งเป็นองค์กรภาคอุตสาหกรรมรูปแบบใหม่ในการขับเคลื่อนการเดินทางอย่างยั่งยืนด้วย

 

ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลุ่มโรงแรมเรดิสันได้ที่เว็บไซต์ radissonhotels.com 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising