ฤดูฝนที่เราติดอยู่กับบ้านทั้งวัน เชื่อว่าทุกคนคงจะเบื่ออาหารที่กินกันอย่างแน่นอน วันนี้เราจึงขอรวบรวมร้านอาหารที่จะทำให้การอยู่บ้านของคุณไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะร้านอาหารอีสานทั้ง 8 แห่งในลิสต์นี้ จะทำให้วันของคุณแซ่บและเผ็ดร้อนมากขึ้นกว่าปกติอีก 100 เปอร์เซ็นต์
และที่สำคัญ เรายังไม่ต้องออกไปกินกันถึงร้าน เพราะตอนนี้สามารถกดสั่งได้แล้วที่ #GrabThumbsUp ในแอปพลิเคชัน GrabFood
1. เบิร์นบุษบา (BurnBusaba)
ร้านอาหารไทยแนวอีสานที่เน้นเมนูยำและย่าง โดยในเมนูยำมีให้เลือกหลากหลาย แถมยังเลือกปรับได้อีกด้วย ทั้งสูตรที่ใส่หรือไม่ใส่ปลาร้า จะใส่ท็อปปิ้งเพิ่มเติมก็ยังทำได้ สามารถเลือกระดับความเผ็ดได้ถึง 4 ระดับ ไม่ว่าจะเป็นแบบ ไม่เผ็ด, เผ็ดบุษบาเบาพริก 7 เม็ด, เผ็ดบุษบาเบิร์นพริก 14 เม็ด หรือแบบโครตเผ็ดบุษบาบอมบ์พริก 20 เม็ด ก็สามารถเลือกได้ตามใจชอบ
Budget: 500-1,000 บาท
Address: ทองหล่อ, Siam Paragon, ซ.ประดิพัทธ์ 19, นางลิ้นจี่, ซ.ราชวินิตบางแก้ว, Central World ชั้น 6
Open:
- สาขาทองหล่อ เวลา 11.00-22.00 น.
- สาขา Siam Paragon เวลา 10.00-21.00 น.
- สาขา ซ.ประดิพัทธ์ 19 เวลา 10.00-22.00 น.
- สาขานางลิ้นจี่ และ Central World ชั้น 6 เวลา 10.00-20.30 น.
- สาขา ซ.ราชวินิตบางแก้ว เวลา 10.00-21.30 น.
2. เผ็ด เผ็ด คาเฟ่ (Phed Phed Cafe)
ร้านอาหารอีสานที่มีรสชาติแท้แบบดั้งเดิมของคนอีสาน โดยมีความเผ็ดจัดเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งสูตรกลมกล่อมที่ทำให้รสชาติของอาหารมีความนัวและเข้ากันได้เป็นอย่างดี การันตีความอร่อยด้วยการมีถึง 6 สาขา และแต่ละสาขาก็ยังมีเมนูที่หลากหลายไม่ซ้ำกัน
Budget: 300-500 บาท
Address: ซ.ประดิพัทธ์ 20, The Circle ราชพฤกษ์, คลองลัดมะยม, พหลโยธิน ซ.8, ตึกมหานคร คิวบ์, เซ็นทรัลชิดลม
Open:
- สาขา ซ.ประดิพัทธ์ 20 เวลา 10.30-21.30 น.
- สาขา The Circle ราชพฤกษ์ เวลา 10.30-22.00 น.
- สาขาคลองลัดมะยม เวลา 10.30-21.00 น.
- สาขาพหลโยธิน ซ.8 เวลา 10.30-20.30 น.
- สาขาตึกมหานคร คิวบ์ เวลา 11.00-20.30 น.
- สาขาเซ็นทรัลชิดลม เวลา 11.00-21.00 น.
3. ไก่ทอดเจ๊กี
ร้านไก่ทอดสูตรลับกับกระเทียมเจียวกรอบสุดอร่อยที่เป็นที่รู้จักมายาวนานกว่า 50 ปี และยังมีอาหารอีสานรสแซ่บอย่างส้มตำและลาบให้กินควบคู่กับไก่ทอด แถมอาหารอีสานของทางร้านยังมีกลิ่นอายของความเป็นใต้ผสมอยู่อย่างลงตัวอีกด้วย
Budget: 200-300 บาท
Address: ซ.โปโล ลุมพินี
Open: เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-21.00 น.
4. เล ลาว (Lay Lao)
ร้านอาหารอีสานที่ทั้งสูตรอาหารและแม่ครัวได้มาจากบ้านของเจ้าของร้านที่หัวหินเองทั้งหมด เพื่อให้คงรสชาติตามแบบฉบับอย่างที่ทางร้านอยากให้เป็น รวมทั้งยังเพิ่มคอนเซปต์ในการนำอาหารทะเลมาอยู่ในเมนูอาหารหลายๆ จานของทางร้านอีกด้วย
Budget: 300-500 บาท
Address: 65-67 ระหว่างซอยอารีย์ 2-3
Open: เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น.
5. ส้มตำเด้อ (Somtum Der)
ร้านอาหารอีสานที่มีชื่อเสียงมากในนิวยอร์ก ได้รับรางวัล Michelin Guide New York City 2016 โดยได้ 1 ดาว ทำให้โด่งดังมากขึ้นไปอีก เอกลักษณ์ของทางร้านคือส้มตำสูตรอีสานเหนือที่มีรสชาติไม่ซ้ำใคร หาทานได้ยากตามร้านอาหารในกรุงเทพฯ มาพร้อมกับอีกกว่า 20 เมนูที่เป็นสูตรต้นตำรับของทางร้าน
Budget: 100-300 บาท
Address: 5/5 ถ.ศาลาแดง
Open: เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-14.30 น. และ 16.30-22.30 น.
6. ลาวต้มลาว (Lao Dtom Lao)
ร้านอาหารลาวอยู่ร่วมกับคาเฟ่ในย่านทองหล่อได้อย่างลงตัว ด้วยการตกแต่งอย่างมีชั้นเชิงและเสิร์ฟอาหารรสชาติลาวแท้ๆ ที่ผ่านการปรุงอย่างพิถีพิถันจากเชฟชาว สปป.ลาว ให้ทุกคนรับประทานกัน โดยเป็นอาหารลาวสูตรต้นตำรับในแบบที่เชฟเติบโตมาด้วยตั้งแต่เด็กๆ
Budget: 200-300 บาท
Address: ชั้น 2 โครงการ Seenspace ซ.ทองหล่อ 13
Open: เปิดทุกวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 12.00-23.00 น.
7. ป้อนมั้ย (PONNMAI)
คาเฟ่ส้มตำริมถนนราชพฤกษ์ มาในบรรยากาศสุดโมเดิร์นสไตล์มินิมัล พร้อมเสิร์ฟอาหารอีสานทั้งตำถาด, ตำหลวงพระบาง, ยำนัวกุ้งสดภูเขาไฟ ฯลฯ แต่ที่ขาดไม่ได้คงเป็นเมนูซิกเนเจอร์อย่างไก่ทอดป้อนมั้ย ที่เสิร์ฟไก่แป้งบางกรอบเนื้อนุ่มมาถึง 20 ชิ้นด้วยกัน
Budget: 300-400 บาท
Address: โครงการ The Garden ถ.ราชพฤกษ์
Open: เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น.
8. อีสาน ปิ๊งปิ๊ง (ESAN Pingping)
บาร์อาหารอีสานที่ตอนเช้าเป็นร้านอาหารกึ่งคาเฟ่ ตอนกลางคืนเป็นบาร์พร้อมอาหารอีสานสุดแซ่บ น้ำปลาร้าและน้ำปูมีรสชาติโดดเด่นไม่เหมือนใคร แถมเมนูยังใช้เตาถ่านในการย่างเพื่อรักษาคุณภาพและให้รสชาติออกมานัวและจัดจ้านอีกด้วย
Budget: 300-500 บาท
Address: ซ.ส.ธรณินทร์ 1 สามเสนนอก
Open: เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 15.00-24.00 น.