ดัชนี PMI ของ S&P Global Flash Eurozone ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 18 เดือน เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อความต้องการบริการและวัสดุสิ้นเปลืองสำหรับภาคการผลิต
โดยดัชนี PMI หรือดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ ลดลงจาก 49.9 ในเดือนกรกฎาคม เป็น 49.2 ในเดือนสิงหาคม ซึ่งค่าที่ต่ำกว่า 50 แสดงถึงการหดตัวของกิจกรรมทางธุรกิจ
ก่อนหน้านี้ดัชนี PMI ร่วงลงต่ำกว่า 50 ในเดือนกรกฎาคม หลังสามารถเติบโตต่อเนื่องในช่วง 16 เดือนก่อนหน้า โดยดัชนี PMI ที่ลดลงเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อได้แรงหนุนจากราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น และวิกฤตห่วงโซ่อุปทานส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก
นอกจากภาคการผลิตที่เริ่มปรับตัวลงแล้ว ภาวะถดถอยยังเริ่มมีการแพร่กระจายไปยังภาคบริการ ซึ่งรวมถึงการท่องเที่ยว ทำให้เศรษฐกิจของสหภาพยุโรปบางส่วนต้องหยุดชะงักตลอดฤดูร้อน
แอนดรูว์ ฮาร์เกอร์ จาก S&P Global Market Intelligence กล่าวว่า แรงกดดันด้านค่าครองชีพหมายความว่า การฟื้นตัวในภาคบริการหลังการยกเลิกการจำกัดการระบาดใหญ่ได้ลดลง
ขณะนี้ผลผลิตที่ลดลงกำลังเห็นได้จากภาคส่วนต่างๆ ตั้งแต่วัสดุพื้นฐานและบริษัทรถยนต์ ไปจนถึงบริษัทด้านการท่องเที่ยวและอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากความอ่อนแอทางเศรษฐกิจกลายเป็นเรื่องกว้างมากขึ้น ขณะที่อัตราการเติบโตของการจ้างงานชะลอตัวลง ส่วนราคาน้ำมันและก๊าซยังคงอยู่ในช่วงขาขึ้น เพราะสงครามยูเครนและมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย
ขณะที่ในส่วนของตลาดหุ้น Wall Street ของสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยบรรดานักลงทุนทั้งหลายต่างมุ่งความสนใจไปที่ข้อมูลที่แสดงให้เห็นถึงเศรษฐกิจชะลอตัว ก่อนการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่แจ็กสันโฮล รัฐไวโอมิง ในช่วงปลายสัปดาห์นี้
โดยดัชนีอุตสาหกรรม Dow Jones ปรับตัวลดลง 154.02 จุด หรือ 0.47% ปิดที่ 32,909.59 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 9.29 จุด หรือ 0.22% ปิดที่ 4,128.73 จุด และดัชนี Nasdaq Composite ลดลง 0.27 จุด หรือ 0.00% ปิดที่ 12,381.30 จุด โดยทั้งดัชนี Dow Jones และ S&P 500 ลดลงเป็นช่วงที่ 3 ติดต่อกัน
รายงานระบุว่า บริการด้านอสังหาริมทรัพย์ การดูแลสุขภาพ และการสื่อสาร มีผลงานแย่ที่สุดใน S&P 500 ขณะที่บริษัทด้านพลังงานเป็นผู้ชนะที่ใหญ่ที่สุด โดยมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.6% จากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น
ด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ขยับขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 3%
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ดัชนีอุตสาหกรรม Dow Jones ร่วงลงมากกว่า 600 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 และดัชนี Nasdaq Composite ตกลงมากกว่า 2% ถือเป็นการลดลงที่ใหญ่ที่สุดสำหรับดัชนีอุตสาหกรรม Dow Jones และดัชนี S&P 500 ในรอบหนึ่งวันนับตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน ส่วนดัชนี Nasdaq ประสบกับช่วงที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน
ลิซ่า ชาเลตต์ หัวหน้าคณะกรรมการการลงทุนระดับโลกที่ Morgan Stanley Wealth Management กล่าวว่า นักลงทุนกำลังประเมินความเสี่ยงด้านภาวะเงินเฟ้อ ภาวะถดถอย และการคาดการณ์รายได้ ต่ำเกินไป
อ้างอิง:
- https://www.aljazeera.com/news/2022/8/23/eurozone-economy-index-drops-to-its-lowest-level-in-18-months
- https://www.cnbc.com/2022/08/22/stock-futures-inch-higher-after-major-averages-notch-worst-day-since-june.html
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP