วานนี้ (29 มิถุนายน) ประธานาธิบดีโจโก วิโดโดแห่งอินโดนีเซีย ได้เข้าพบกับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีแห่งยูเครน ณ กรุงเคียฟ โดยเสนอขอเป็นคนกลางนำสารจากผู้นำยูเครนส่งถึงประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซีย
“ผมขอเสนอตัวเป็นคนกลางที่จะนำสารจากประธานาธิบดีเซเลนสกีไปส่งให้กับประธานาธิบดีปูติน ซึ่งผมจะเดินทางไปพบเขาในเร็วๆ นี้” วีโดโดกล่าว พร้อมเน้นย้ำว่าอินโดนีเซียเคารพในอธิปไตยของชาติ และเชื่อมั่นในการแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนด้วยสันติวิธี
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่ได้มีรายงานออกมาชัดเจน ว่าเซเลนสกีตอบรับข้อความของวีโดโดอย่างไร หรือเซเลนสกีได้ฝากสารไปกับวีโดโดด้วยหรือไม่
วีโดโดเดินทางถึงกรุงเคียฟเมื่อช่วงเช้าวานนี้ ก่อนที่จะเข้าพบกับเซเลนสกี ณ พระราชวังมารินสกีในช่วงบ่าย โดยภายหลังการประชุมสิ้นสุด เขาได้เดินทางกลับไปยังโปแลนด์และเตรียมตัวเดินทางต่อไปยังรัสเซียในวันนี้ เพื่อเข้าพบกับประธานาธิบดีปูติน ซึ่งคาดว่าจะมีการพยายามโน้มน้าวให้ผู้นำรัสเซียเห็นพ้องใช้ข้อกำหนดหยุดยิง หลังจากที่การเจรจาสันติภาพระหว่างยูเครนและรัสเซียหยุดชะงักลง เนื่องจากไม่มีฝ่ายใดที่จะยอมประนีประนอมให้กับเงื่อนไขของอีกฝ่าย
ในระหว่างการประชุม วีโดโดยังได้กล่าวถึงบทบาทสำคัญของยูเครนในห่วงโซ่อุปทานอาหารทั่วโลก “เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่ทุกฝ่ายจะต้องสร้างหลักประกันถึงความมั่นคง ว่ายูเครนจะสามารถส่งออกอาหารได้อย่างราบรื่น ซึ่งรวมถึงการส่งสินค้าผ่านทางท่าเรือด้วย” เขากล่าว “ผมสนับสนุนความพยายามขององค์การสหประชาชาติในประเด็นนี้”
ทั้งนี้ องค์การสหประชาชาติ (UN) กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจากับยูเครน รัสเซีย และตุรกี เพื่อจัดตั้งเส้นพิเศษทางสำหรับส่งออกข้าวสาลีของยูเครนในทะเลดำไปยังตลาดอื่นๆ ทั่วโลก
อนึ่ง ก่อนหน้าที่รัสเซียจะเข้าบุกโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์นั้น ยูเครนเป็นหนึ่งในชาติที่ส่งออกข้าวสาลีให้กับอินโดนีเซียมากที่สุด แต่สงครามที่เกิดขึ้นได้ขัดขวางการส่งออกของยูเครนในทะเลดำ ซึ่งผลกระทบต่อวิกฤตอาหารโลกด้วย
ด้านเซเลนสกีขานรับการเดินทางเยือนยูเครนของวีโดโด โดยกล่าวว่า “การอำนวยความสะดวกของประธานและสมาชิกกลุ่ม G20 มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการฟื้นฟูสันติภาพ”
ผู้นำทั้งสองยังได้หารือถึงโอกาสของการฟื้นฟูยูเครนหลังสงคราม “ผมขอเชิญชาวอินโดนีเซีย บริษัทสัญชาติอินโดนีเซีย และผู้เชี่ยวชาญให้เข้าร่วมการดำเนินโครงการนี้ ซึ่งเป็นโครงการทางเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในยุคของเราในยุโรป” เซเลนสกีกล่าว
พร้อมกันนี้ วีโดโดยังกล่าวด้วยว่า อินโดนีเซียมุ่งมั่นที่จะกระชับความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีกับยูเครน โดยอินโดนีเซียจะจัดหาเวชภัณฑ์ที่จำเป็น และช่วยสร้างโรงพยาบาลที่ได้รับความเสียหายจากการโจมตีของรัสเซียขึ้นมาใหม่
ในฐานะประธานการประชุมกลุ่ม G20 ปีนี้ วีโดโดได้เชิญให้เซเลนสกีเข้าร่วมการประชุมที่จะเปิดฉากขึ้น ณ เกาะบาหลี ในเดือนพฤศจิกายน โดยผู้นำยูเครนได้ตอบรับคำเชิญดังกล่าว แต่ก็อาจจะต้องพิจารณาสถานการณ์ในประเทศด้วยว่า ณ เวลานั้นจะสามารถเดินทางไปได้หรือไม่
ภาพ: Indonesia Presidential Secretariat / Anadolu Agency via Getty Images
อ้างอิง: