วันนี้ (1 มิถุนายน) ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ สัดส่วนผู้มีความหลากหลายทางเพศ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงเทศกาลสำคัญของผู้มีความหลากหลายทางเพศ ที่ทั่วโลกกำหนดให้เกิดขึ้นในเดือนมิถุนายนของทุกปีที่เรียกว่า Pride Month เดือนแห่งความภาคภูมิใจของบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศ และในเดือนนี้กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศต่างออกมายืนยันและแสดงตัวตน เพื่อสื่อสารกับสังคมในความภาคภูมิใจของตัวเอง ไม่ต้องเก็บ ไม่ต้องกด ไม่ต้องอาย กับสิ่งที่ตนเองเป็น นี่คือการร่วมสร้างและขีดเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ ที่ถูกลืมในประวัติศาสตร์กระแสหลักซึ่งเขียนโดยโลกชายเป็นใหญ่ ที่ส่งผลให้คุณค่าความเป็นมนุษย์ไม่เท่ากัน
ธัญวัจน์กล่าวต่อไปว่า จากสังคมที่กดขี่ อคติ และเลือกปฏิบัติของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ ส่งผลให้เกิดเหตุการณ์จลาจลระหว่างกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศและตำรวจในวันที่ 28 มิถุนายน 1969 และเหตุการณ์ครั้งนั้นนำมาสู่การเดินขบวนเรียกร้องสิทธิความเสมอภาคของบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศครั้งแรกใน นิวยอร์ก ลอสแอนเจลิส ซานฟรานซิสโก และชิคาโก ในวันที่ 28 มิถุนายน 1970 หรืออย่างประเทศไทยก็มีเหตุการณ์ เสาร์ซาวเอ็ด เป็นเหตุการณ์ที่มีความรุนแรงต่อบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีเป้าหมายยับยั้งการจัดงานพาเหรด Gay Pride ในอำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เหตุการณ์ครั้งนั้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ เมื่อ 13 ปีที่แล้ว ซึ่งในปัจจุบันเชียงใหม่ก็ยังคงจัดงานรำลึกเหตุการณ์ดังกล่าวทุกปี
“ในฐานะผู้แทนราษฏร ตนขอแจ้งว่า ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ที่คณะรัฐมนตรีขอเวลา 60 วันเพื่อไปศึกษาจากกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จะกลับเข้าสู่การพิจารณาในสภาอีกครั้งวันที่ 8 มิถุนายนนี้ การสมรสคือสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานที่กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศถูกพรากไป ตนหวังว่าผู้แทนราษฏรทุกท่านจะโหวตเห็นด้วยในการรับร่าง ขอให้ทุกท่านอย่ามองเป็นเรื่องพรรคการเมือง แต่เป็นเรื่องของทุกคน” ธัญวัจน์กล่าว
ธัญวัจน์กล่าวทิ้งท้ายถึงความสำคัญในเดือน Pride Month ที่เกี่ยวกับตนว่า ตนยื่นร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมเข้าสู่สภาเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2020 และวันที่ 8 มิถุนายนนี้ จะเป็นวันที่ร่างดังกล่าวจะกลับสู่สภา คือการรอคอยตลอด 720 วันของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ ที่มีความหวังว่าความเท่าเทียมจะเกิดขึ้นในสังคมไทย