วานนี้ (30 พฤษภาคม) รัฐบาลแคนาดาภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด เดินหน้าผลักดันการประกาศใช้กฎหมายควบคุมการซื้อขายอาวุธปืนฉบับใหม่ ซึ่งรวมถึงการจำกัดจำนวนลูกกระสุนในแมกกาซีนและแบนปืนของเล่น เพื่อลดโอกาสการเกิดปัญหาอาชญากรรมภายในประเทศ
การประกาศใช้กฎหมายใหม่มีขึ้นภายหลังจากเหตุกราดยิงในประเทศเพื่อนบ้านอย่างสหรัฐอเมริกา ที่ชายวัยเพียง 18 ปี ใช้อาวุธปืนพกและปืนไรเฟิล กราดยิงผู้บริสุทธิ์ภายในโรงเรียนประถมศึกษาร็อบบ์ในเมืองอูวัลเด รัฐเท็กซัส เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต รวมผู้ลงมือก่อเหตุทั้งหมด 22 ราย นับเป็นเหตุกราดยิงภายในสถานศึกษาที่รุนแรงที่สุดเหตุการณ์หนึ่งในสังคมอเมริกันในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา
ทรูโดระบุว่า “เราจำเป็นต้องเรียนรู้จากสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศเพื่อนบ้านทางตอนใต้ของเรา เพราะเราต่างทราบดีว่าถ้าเราไม่ลงมือทำอะไรสักอย่างอย่างจริงจังและรวดเร็ว อาจทำให้สถานการณ์ต่างๆ ยิ่งเลวร้ายลงและรับมือยากยิ่งขึ้น”
โดยผู้นำแคนาดาชี้แจงว่า กฎข้อบังคับใหม่นี้มีขึ้นเพื่อจัดการกับแนวโน้มที่ความรุนแรงเนื่องจากการใช้อาวุธปืนเพิ่มสูงขึ้น และถึงแม้ว่าแคนาดาจะมีกฎหมายควบคุมอาวุธปืนที่เข้มงวดกว่าสหรัฐฯ อยู่บ้างแล้ว และมีอัตราการเสียชีวิตหรือการฆาตกรรมด้วยอาวุธปืนต่ำว่าสหรัฐฯ ราว 1 ใน 5 เท่า แต่ก็ยังสูงมากเมื่อเทียบกับประเทศมั่งคั่งอื่นๆ และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยจากรายงานของ Statistics Canada ชี้ว่า ในปี 2020 ที่ผ่านมา แคนาดามีอัตราการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับอาวุธปืนสูงกว่าออสเตรเลียถึง 5 เท่า ซึ่งปี 2020 และปี 2017 มีสถิติที่สูงมาก นับตั้งแต่ปี 1997 เป็นต้นมา
แต่อย่างไรก็ตาม กฎหมายใหม่นี้จะระบุข้อยกเว้นบางประการให้กับบรรดานักกีฬายิงปืน นักกีฬาโอลิมปิก และบรรดาเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง ในขณะที่ชาวแคนาดาที่ครอบครองอาวุธปืนอยู่แล้วก็สามารถครอบครองต่อไปได้ โดยจะมีข้อจำกัดเรื่องจำนวนลูกกระสุนในแมกกาซีนและแบนปืนของเล่นเพิ่มเติม เนื่องจากเมื่อไม่นานมานี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าจัดการชายที่ถือปืนของเล่น จึงนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เลวร้ายตามมา และเพื่อไม่ให้สถานการณ์เกี่ยวกับความรุนแรงที่เกิดจากการใช้อาวุธปืนทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น แคนาดาจึงจำเป็นต้องมีกฎหมายที่เข้มงวดและรัดกุมมากยิ่งขึ้น
เมื่อปี 2020 ที่ผ่านมา เกิดเหตุกราดยิงที่รัฐทางชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของแคนาดาอย่างโนวาสโกเชีย เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต รวมผู้ลงมือก่อเหตุทั้งหมด 23 ราย นับเป็นโศกนาฏกรรมที่เกิดจากอาวุธปืนครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 30 ปีของแคนาดา
แฟ้มภาพ: Thierry Monasse / Getty Images
อ้างอิง: