วานนี้ (22 พฤษภาคม) ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน ชี้ว่า วิธีการทางการทูตหรือสันติวิธีจะช่วยยุติไฟแห่งสงครามที่กำลังดำเนินมาเกือบ 3 เดือนของรัสเซีย-ยูเครนครั้งนี้ โดยทางการยูเครนย้ำชัด จะไม่บรรลุข้อตกลงหยุดยิงใดๆ หากต้องสูญเสียอธิปไตยหรือยกดินแดนส่วนใดส่วนหนึ่งของยูเครนให้กับรัสเซีย
ขณะที่ มิคาอิโล โปโดลยัก ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครน มองว่า การยอมให้หรือยอมทำตามข้อเรียกร้องของรัสเซียในบางเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการสูญเสียอำนาจอธิปไตย อาจนำไปสู่ท่าทีที่ก้าวร้าวมากขึ้น ความสูญเสียที่มากขึ้น นองเลือดมากยิ่งขึ้น
ทางด้านผู้นำประเทศต่างๆ รวมถึงองค์การระหว่างประเทศต่างยังคงแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เดินทางเยือนยูเครนท่ามกลางสงครามอย่างต่อเนื่อง เพื่อแสดงจุดยืนร่วมสนับสนุนและเคียงข้างชาวยูเครนในขณะที่ต้องเผชิญหน้ากับการรุกรานของกองทัพรัสเซีย
โดย อันด์แชย์ ดูดา ประธานาธิบดีโปแลนด์ คือผู้นำคนล่าสุดที่เดินทางเยือนยูเครนและเป็นผู้นำคนแรกที่เดินทางเข้าร่วมประชุมรัฐสภายูเครนด้วยตนเอง ซึ่งดูดาชี้ว่า โปแลนด์จะส่งมอบความช่วยเหลือให้ประเทศเพื่อนบ้านอย่างยูเครนก้าวข้ามช่วงเวลาที่ยากลำบาก พร้อมย้ำชัดว่า มีเพียงชาวยูเครนเท่านั้นที่จะตัดสินอนาคตของพวกเขาได้ อีกทั้งยังจะช่วยผลักดันการสมัครเข้าเป็นสมาชิกใหม่ของสหภาพยุโรปอีกด้วย
แฟ้มภาพ: Volodymyr Tarasov / Ukrinform / Future Publishing via Getty Images
อ้างอิง: