วันนี้ (12 พฤษภาคม) จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงประเด็น Car Seat โดยระบุว่า เรื่อง Car Seat ที่กำหนดว่าเด็กอายุไม่เกิน 6 ขวบจะต้องมี Car Seat สำหรับการนั่งโดยสารในรถยนต์ เป็นที่ทราบกันว่าจะบังคับใช้ในวันที่ 5 กันยายน 2565 เหลืออีกประมาณ 4 เดือน
โดยเรื่องนี้มี วัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เข้ามาช่วยดูแล โดยเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา มีการเรียกประชุมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องไปแล้ว ซึ่งมีห้างสรรพสินค้าและผู้บริหารแพลตฟอร์มต่างๆ ที่จำหน่าย Car Seat เข้าร่วม
ทั้งนี้ มีการสั่งให้ 1. ห้ามปรับขึ้นราคาโดยเด็ดขาด 2. ถ้ามีการขอปรับราคาเพราะต้นทุนนำเข้าสูงขึ้นหรือเหตุอื่น ต้องขออนุญาตกรมการค้าภายในก่อน
รวมถึงขอความร่วมมือกับห้างสรรพสินค้าที่มีศักยภาพ เช่น แม็คโคร โลตัส บิ๊กซี ให้ช่วยนำเข้า Car Seat ราคาประหยัดมาจำหน่ายในประเทศ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคปฏิบัติตามกฎหมายต่อไป
และจากนี้ไปจะติดตามการจำหน่ายในแพลตฟอร์มต่างๆ โดยกรมการค้าภายในแจ้งแล้วว่าห้ามแก้ไขหรือปรับราคาขึ้น หากมีการฉวยโอกาสและตรวจพบจะถูกดำเนินคดีตามมาตรา 29 ของพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ถือว่าเข้าข่ายค้ากำไรเกินควร โทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
หากผู้บริโภคพบข้อสงสัยว่าจะเป็นการค้ากำไรเกินควร แจ้งไปที่สายด่วนกระทรวงพาณิชย์ 1569 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
จากการสำรวจของพาณิชย์จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่าราคามีความแตกต่างกันมากตามคุณภาพรูปแบบต้นทุนนำเข้า เฉลี่ยประมาณ 1,500-30,000 บาท ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้สั่งการให้ผู้เกี่ยวข้องแจ้งราคาจำหน่ายมายังกรมการค้าภายใน ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ และขอบคุณผู้ประกอบการที่ให้ความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ เพื่อประโยชน์ของผู้บริโภคจะได้ปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อความปลอดภัยของเด็กที่ต้องโดยสารรถยนต์ต่อไป
อย่างไรก็ตาม กรณีการบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้เป็นของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และจะมีผลในวันที่ 5 กันยายน 2565 และประกาศในราชกิจจานุเบกษา พระราชบัญญัติจราจรทางบก ฉบับล่าสุด ซึ่งยังมีเวลาอีกประมาณ 4 เดือน ถึงจะมีผลทางกฎหมายการบังคับใช้ ดังนั้น ประชาชนยังมีเวลาเตรียมตัว และกระทรวงพาณิชย์ที่เป็นปลายทางของสถานการณ์ด้านราคาก็จะประสานงานเรื่องสินค้าได้มาตรฐานราคาย่อมเยานำเข้ามาให้เป็นทางเลือกและโอกาสของประชาชน ไม่ให้เป็นภาระ