วันนี้ (3 พฤษภาคม) สกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) หมายเลข 3 กล่าวระหว่างลงพื้นที่หาเสียงพบปะประชาชนที่ตลาดวัดชัยฉิมพลี เขตภาษีเจริญ โดยระบุว่า โค้งสุดท้ายในการหาเสียงของตนยังคงใช้เวลาช่วงเช้าลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนโดยตรง แม้ว่าจะมีสื่อช่องทางอื่นๆ ในการช่วยเผยแพร่หาเสียง แต่คิดว่าการได้พบประชาชนด้วยตัวเองยังมีความสำคัญอยู่ เพราะได้รับทราบปัญหาโดยตรง ยกตัวอย่าง พื้นที่บริเวณนี้ประชาชนต้องการให้เข้ามาแก้ไขปัญหาเรื่องท่อระบายน้ำ ซึ่งตนคิดว่าเป็นเรื่องแรกๆ ที่หากได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. จะต้องรีบทำ เพราะกำลังจะเข้าฤดูฝน โดยจะเน้นที่จุดเสี่ยงต่างๆ ทั้งกรุงเทพฯ ชั้นในและรอบนอกด้วย ซึ่งข้อมูลจุดเสี่ยงต่างๆ มีอยู่แล้ว ส่วนจุดอื่นๆ จะต้องค่อยๆ ทยอยทำไป เพราะกรุงเทพฯ มีท่อระบายน้ำรวมกันแล้วมากกว่า 6,000 กิโลเมตร คงไม่สามารถทำได้หมดในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าจะสามารถแก้ไขให้ดีขึ้นได้ เพราะตนมีประสบการณ์การทำงานมาแล้ว ไม่ต้องมาเรียนรู้ใหม่ สามารถทำได้ทันที
“เรื่องของท่อระบายน้ำผมคิดว่าต้องเอาแผนมาดู ด้วยงบของ กทม. คิดว่าไม่สามารถทำได้ทุกจุด แต่ต้องมีการหมุนเวียนกันไป เพราะในวาระของผู้ว่าฯ 4 ปี ก็ต้องมีแผนรองรับรอบด้าน อย่างจุดเสี่ยงน้ำท่วมก็จำเป็นต้องลอกท่ออย่างเร่งด่วนอยู่แล้ว แต่ถ้าจุดไหนยังไม่ใช่ ผมคิดว่าอย่างน้อย 2 ปีจะต้องลอกท่อ 1 ครั้ง” สกลธีกล่าว
สกลธียังกล่าวถึงบรรยากาศในการพบปะประชาชนระหว่างการเดินหาเสียงว่า ตนรู้สึกดีใจที่ได้รับการตอบรับที่ดี แม้หลายคนจะบอกว่ายังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเลือกใคร ซึ่งตรงนี้ตนคิดว่าเป็นความสำคัญในช่วงโค้งสุดท้ายที่ผู้คนกำลังจะตัดสินใจเลือกผู้สมัครสักคน แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผู้สมัครที่จะพยายามเร่งโชว์นโยบายและวิสัยทัศน์ได้มากแค่ไหน ขณะเดียวกันการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่เหมือนหลายครั้งที่ผ่านมา ประชาชนต้องใช้เวลาในการตัดสินใจ ส่วนตัวจึงเชื่อว่าแม้จะมีผลโพลที่นำเสนอออกมามากมาย แต่สุดท้ายผลมีโอกาสเปลี่ยนแปลงได้เสมอ
สกลธียังกล่าวถึงกระแสความนิยมของตนเองที่ล่าสุดมีผู้มีชื่อเสียงหลายคน เช่น พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา, นิติพงษ์ ห่อนาค, นรินทร ณ บางช้าง, เรวดี ศรีท้าว เป็นต้น ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวประกาศสนับสนุนจะเลือกตนเป็นผู้ว่าฯ กทม. ว่ารู้สึกขอบคุณ และทำให้เห็นว่าหลายคนได้เห็นนโยบายที่ตนพยายามนำเสนอมาโดยตลอด
“ตอนนี้รู้สึกมีกำลังใจมากขึ้นเรื่อยๆ ต้องขอขอบคุณทุกกำลังใจและเสียงในโซเชียลที่ออกมาประกาศสนับสนุนให้กำลังใจผม นั่นคือทำให้เริ่มเห็นมากขึ้นว่าหลายคนเริ่มตัดสินใจจากนโยบายของผู้สมัครต่างๆ ที่มีความชัดเจน ทั้งจากการดีเบตหรือการหาเสียง ทำให้คนเริ่มมั่นใจและตัดสินใจในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ครั้งนี้ ซึ่งตอนนี้ผมคงมุ่งเรื่องการหาเสียงและจะไม่ไปจับผิดใคร” สกลธีกล่าว