วันนี้ (30 เมษายน) พรรคกล้าจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2565 ตามมาตรา 37 พ.ร.ป.พรรคการเมือง พร้อมแถลงผลงานตลอด 2 ปีที่ผ่านมา และการกำหนดทิศทางของพรรคที่พร้อมลงมือทำงานเพื่อประชาชน และการเตรียมความพร้อมสู่การเลือกตั้งครั้งหน้า บนเป้าหมาย ‘ฟื้นเศรษฐกิจ แก้วิกฤตปากท้อง’
ด้าน กรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวย้ำว่า 2 ปี การทำงานการเมืองกับพรรคกล้า สิ่งที่ทุกคนสัมผัสได้คือประชาชนเดือดร้อนมากขึ้นเรื่อยๆ ค่าครองชีพสูงขึ้น รายได้ลดลง หนี้สินเพิ่มขึ้น เด็กจบใหม่หางานทำไม่ได้ ต้นทุนเกษตรกรเพิ่มขึ้นรายวัน และอนาคตไม่ชัดเจนว่าจะดีขึ้นได้เมื่อไร จึงต้องหันมาให้ความสําคัญกับ ‘การสร้างรายได้’ แต่โลกที่เปลี่ยนไปมาก การสร้างรายได้ต้องนอกเหนือจากวิธีการเดิมๆ 4 แนวทางคือ
- สร้างอุตสาหกรรมใหม่ๆ ‘กล้า Green Deal’ ส่งเสริมการลงทุนเพื่อปรับอุตสาหกรรมเก่า และสร้างอุตสาหกรรมใหม่ที่ทันสมัย สะอาด ใช้ทรัพยากรหมุนเวียน ผลผลิตมีมูลค่าสูง เริ่มที่ภาคพลังงาน ยานยนต์ และการคมนาคม
- สร้างโอกาส สร้างรายได้ จากการ ‘เปลี่ยนส่วยเป็นภาษี’ ยกกิจการเถื่อน กิจการใต้ดินมาไว้บนดิน มาไว้ในแสงสว่าง กำจัดคอร์รัปชัน กำจัดส่วย สร้างงาน สร้างโอกาส และสร้างรายได้ให้รัฐ
- พัฒนาแนวทางการเข้าถึงตลาดให้กับเกษตรกร และประชาชนนับล้านคนที่มีรายได้จากการค้าขายออนไลน์
- ส่งเสริมธุรกิจพันธุ์ใหม่ ‘ธุรกิจเศรษฐกิจสร้างสรรค์’ เป็นโอกาสคนรุ่นใหม่ มีอาชีพที่รัก ในอุตสาหกรรมที่เติบโตรวดเร็ว
กรณ์ย้ำว่า ทั้ง 4 แนวทางจะเกิดขึ้นได้ รัฐเองก็ต้องปรับ มิเช่นนั้นรัฐจะเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาของประเทศเสียเอง เรามีเป้าหมายว่าระบบราชการต้องดิจิไทซ์ 100% ทุกบทบาทและการเข้าถึงระบบราชการต้องทำได้ผ่านโทรศัพท์มือถือ โอกาสยุคต่อไป ไม่ใช่เพียงแรงงาน ทุน หรือที่ดินเหมือนอดีต แต่ปัจจัยสำคัญคือ ‘นวัตกรรม’ พร้อมย้ำว่าระบบเศรษฐกิจที่พึ่งคอนเน็กชันสำคัญกว่าฝีมือและนวัตกรรม คือระบบเศรษฐกิจที่ไม่พัฒนา หมดยุคประชานิยมแบบเดิมๆ เป็นยุคของ ‘โอกาสนิยม’ สร้างรายได้ให้ประชาชน สร้างรายได้ให้ประเทศชาติ ต้องเป็นรัฐบาลที่กล้าใช้ฐานะการเงินอย่างชาญฉลาด สร้างโอกาสให้ประเทศ สร้างรายได้ ไม่ใช่แค่การสร้างหนี้
“เราต้องรู้สึกว่าผู้นำประเทศเห็นและเข้าใจในความเดือดร้อนของเรา ขอให้เราเห็นว่าผู้นำประเทศใส่ใจและจริงใจในการหาทางแก้ปัญหาให้กับเรา และขอให้เราเห็นแนวทางว่าทุกอย่างจะดีขึ้นได้และจะดีขึ้นในอีกไม่นานเกินไป และนี่คือภารกิจของพรรคกล้า เราได้ร่วมกันตั้งพรรคกล้าขึ้นมาเพื่อการนี้” กรณ์กล่าว
อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า กล่าวว่า 2 ปีของพรรคกล้าเติบโตขึ้นมาก มีสมาชิกถึง 24,634 คน มีสาขาและตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดกระจายทั่วประเทศรวม 89 แห่ง และเตรียมรอจะเปิดเพิ่มอีกหลายพื้นที่ พรรคกล้าได้รับบริจาคเงินอุดหนุนภาษีจากประชาชนสูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศ พื้นที่ไหนมีคนพร้อมสู้ พรรคก็พร้อมส่งสมัคร ส.ส. เวทีการเมืองน้องใหม่แห่งนี้พร้อมแล้วสำหรับคนคุณภาพในแต่ละสาขาอาชีพ
อรรถวิชช์กล่าวอีกว่า 2 ปีของพรรคกล้าเป็น 2 ปีที่โควิดระบาด พรรคใหม่เล็กๆ ของเราได้อยู่เคียงข้างประชาชน รณรงค์ให้เกิดการสวมหน้ากาก โดยแจกหน้ากากไปกว่า 5 ล้านชิ้น, ตั้งศูนย์กล้าดูแล ศูนย์พักคอยแยกผู้ป่วยในชุมชน 36 แห่ง, กล้าเติมอิ่ม แจกข้าวกล่อง 150,000 มื้อ, กล้าหาเตียง ช่วยผู้ป่วยโควิดหาที่รักษาพยาบาลกว่า 7,000 ราย และจัดตั้งกลุ่มกล้าอาสาฉีดพ่นฆ่าเชื้อโควิด ช่วยเหลือผู้ประสบภัยไฟไหม้ และวิกฤตน้ำท่วมในจังหวัดลุ่มนำ้เจ้าพระยาและภาคใต้
“ด้านเศรษฐกิจ ใน 2 ปีนี้หนี้เต็มเพดาน ทั้งหนี้ประชาชนและหนี้ของรัฐเอง หนี้ครัวเรือนกระโดดไปอยู่ที่ 90.1% ต่อ GDP ขณะที่หนี้สาธารณะสูงทะลุจนต้องปรับเพดานการก่อหนี้จาก 60% เป็น 70% ต่อ GDP และปรับเพดานการก่อหนี้กึ่งการคลัง หรือหนี้รวมของธนาคารของรัฐอย่าง ธกส. และ ออมสิน SMEs จาก 30%เป็น 35% นี่คือวันนี้ที่เจ็บปวด
“แต่พรุ่งนี้ 1 พฤษภาคม ทุกมาตรการโควิดจะผ่อนคลายลง เช่น การยกเลิก Test & Go ต่างชาติจะมาเที่ยวง่ายขึ้น บรรยากาศการทำมาหากินจะกลับมา หัวใจคือ ‘การสร้างรายได้’ คนพรรคกล้าเราจะสู้เพื่อทุบทุกอุปสรรคในการสร้างรายได้ของประชาชน ระบบราชการถึงเวลาต้องปรับขนานใหญ่เพื่อตอบโจทย์โครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ ‘รัฐต้องมองเอกชนเป็นหุ้นส่วน’ ประชาชนมีเงิน รัฐถึงรายได้” อรรถวิชช์กล่าว
นอกจากนั้นยังมีบุคคลที่เป็นมืออาชีพด้านเศรษฐกิจ อย่าง วรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรคกล้า พูดถึงการสร้างโอกาสด้วยเศรษฐกิจเพื่อคนตัวเล็ก เศรษฐกิจต้องเดินหน้าด้วยโอกาสนิยม ไม่ใช่ประชานิยม, สมคิด จิรานันตรัตน์ ที่ปรึกษานโยบายด้านเทคโนโลยีเพื่อเศรษฐกิจดิจิทัล พรรคกล้า ในเรื่องเศรษฐกิจดิจิทัลที่ประเทศไทยต้องก้าวให้ทัน ด้วยการเปลี่ยนโครงสร้าง และสร้างความสามารถใหม่ทางเศรษฐกิจ
และยังมีการเปิดตัวบุคคลจากหลายสาขาอาชีพ มีคนรุ่นใหม่อย่าง พีเค The Face – พัสกร วรรณศิริกุล มาร่วมทีมเศรษฐกิจมืออาชีพ และยังมีทีมลงพื้นที่ ทีมโฆษกคนรุ่นใหม่ รวมถึงบุคคลผู้มีประสบการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจ คือ กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ อดีตรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ มาร่วมงานพรรคกล้า ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และนโยบาย พรรคกล้า