วานนี้ (25 เมษายน) เกิดเหตุระเบิดขึ้นในเมืองทรานส์นิสเตรีย พื้นที่ชายแดนมอลโดวาที่สนับสนุนรัสเซียและอยู่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างยูเครน หลายฝ่ายหวั่นสงครามขยายตัว คาดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นไปเพื่อปลุกปั่น โดยทางการรัสเซียอาจหวังใช้พื้นที่ดังกล่าวเป็นอีกจุดยุทธศาสตร์ที่ใช้จัดการกับยูเครน
เบื้องต้น ทางการท้องถิ่นรายงานว่า ไม่มีผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดดังกล่าว โดยทรานส์นิสเตรียเป็นหนึ่งในเมืองที่มีกองกำลังทหารรัสเซียประจำการอยู่และประชากรในพื้นที่จำนวนไม่น้อยมีเชื้อสายรัสเซีย เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกของยูเครน และอยู่ห่างจากเมืองโอเดสซา ท่าเรือที่สำคัญของยูเครนเพียง 40 กิโลเมตรเท่านั้น
โดยทรานส์นิสเตรียมีความคล้ายคลึงกับแคว้นโดเนตสก์และแคว้นลูฮันสก์ในภูมิภาคดอนบาสของยูเครน ซึ่งทั้งหมดล้วนพยายามประกาศแยกตัวเป็นเอกราชจากประเทศเดิมของตน และมีจุดยืนในการสนับสนุนรัสเซีย เนื่องจากรัสเซียเคยมีส่วนช่วยสนับสนุนทรานส์นิสเตรียในสงครามที่สู้รบกับรัฐบาลมอลโดวา ที่มีเพื่อนบ้านอย่างโรมาเนียให้การสนับสนุน เมื่อปี 1990 สงครามยืดเยื้ออยู่ราว 1 ปี 8 เดือน ก่อนที่ทรานส์นิสเตรียและรัสเซียจะได้รับชัยชนะ ทรานส์นิสเตรียประกาศเอกราชในทางพฤตินัย แต่สหประชาชาติยังคงรับรองให้ทรานส์นิสเตรียอยู่ภายใต้อำนาจอธิปไตยของมอลโดวาต่อไป
มอลโดวาเป็นประเทศเพื่อนบ้านของยูเครนที่ไม่ได้เป็นสมาชิก NATO และสหภาพยุโรป (EU) แต่มีพรมแดนประเทศติดต่อกัน และเปิดรับผู้ลี้ภัยสงครามจากยูเครนไปแล้ว 4.33 แสนราย หลังสงครามรัสเซียรุกรานยูเครนดำเนินมานานกว่า 2 เดือนแล้ว
FYI:
ทรานส์นิสเตรีย ได้รับการรับรองเอกราชจากประเทศที่ประกาศเอกราชแต่เพียงฝ่ายเดียว และไม่ได้รับการรับรองจากประชาคมโลกและสหประชาชาติ 3 ประเทศ ได้แก่ อับคาเซีย (Abkhazia) และเซาท์ออสซีเชีย (South Ossetia) ที่พยายามแยกตัวออกจากจอร์เจีย รวมถึงสาธารณรัฐนากอร์โน-คาราบัค (Republic of Artsakh) ที่พยายามแยกตัวออกจากอาเซอร์ไบจาน
แฟ้มภาพ: Sander de Wilde / Corbis via Getty Images
อ้างอิง: