สิงคโปร์เดินหน้าผ่อนคลายมาตรการป้องกันโควิดส่วนใหญ่ที่บังคับใช้มานาน ซึ่งรวมถึงการอนุญาตให้ถอดหน้ากากในที่แจ้งได้ตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคมเป็นต้นไป และให้รวมตัวทางสังคมเพิ่มขึ้นจาก 5 เป็น 10 คน ซึ่งเป็นความพยายามล่าสุดของสิงคโปร์ในการอยู่ร่วมกับโควิด และให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติมากขึ้น
ลีเซียนลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ประกาศเมื่อวานนี้ (24 มีนาคม) ว่าสิงคโปร์จะแก้ไขกฎเกณฑ์ในการป้องกันโควิดใหม่ โดยเมื่ออยู่กลางแจ้ง ประชาชนไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากอีกต่อไป แต่หากอยู่ในที่ร่มยังต้องสวมหน้ากากอยู่
ส่วนมาตรการ Work from Home นั้น ทางการจะคลายข้อจำกัด โดยอนุญาตให้ลูกจ้างกลับเข้าไปทำงานได้มากขึ้น และเพิ่มความจุของผู้คนในการเข้าร่วมกิจกรรมใหญ่ๆ ได้
นอกจากนี้ลียังเผยว่า สิงคโปร์จะเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดเกี่ยวกับการตรวจหาเชื้อและกักตัวครั้งใหญ่ เพื่อทำให้การเดินทางง่ายขึ้นเกือบเหมือนกับช่วงก่อนเกิดโรคระบาดโควิด โดยในช่วง 2 ปีที่มีการระบาด สิงคโปร์ใช้มาตรการควบคุม เช่น การบังคับสวมหน้ากาก และการติดตามกลุ่มเสี่ยงที่เข้มงวดมากที่สุดประเทศหนึ่งของโลก
“กลับไปใช้ชีวิตแบบปกติได้มากขึ้น สามารถรวมตัวกับคนในครอบครัวและเพื่อนฝูงได้มากขึ้น ออกนอกบ้านโดยไม่ต้องสวมหน้ากาก หรือเดินทางไปพบบุคคลอันเป็นที่รักในต่างประเทศได้” ลีกล่าว
อย่างไรก็ตาม นายกฯ ลี ระบุว่า ประชาชนยังต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดและกฎเกณฑ์การตรวจเชื้อที่ยังเหลืออยู่
สำหรับมาตรการเดินทางที่ผ่อนคลายลงนั้น มีข้อกำหนดว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว และเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีที่ยังฉีดไม่ครบ สามารถเดินทางเข้าสิงคโปร์ได้โดยไม่จำเป็นต้องยื่นขอการอนุมัติ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนเป็นต้นไป โดยกระทรวงคมนาคมสิงคโปร์ระบุว่า คนที่เข้าเกณฑ์เข้าประเทศได้จะไม่ต้องตรวจหาเชื้อเมื่อเดินทางถึงสิงคโปร์
ภาพ: Suhaimi Abdullah / NurPhoto via Getty Images
อ้างอิง: