ตามข้อมูลของ Korea Tattoo Association คนเกาหลีใต้อย่างน้อย 1 ล้านคนที่มี ‘รอยสัก’ และอุตสาหกรรมการสักมีมูลค่าประมาณ 2 แสนล้านวอน หรือราว 5.5 พันล้านบาทต่อปี ซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้สวนทางกับความเป็นจริงที่ว่า ‘ช่างสัก’ คืออาชีพที่ผิดกฎหมาย
อาชีพใต้ดิน
‘อิลวอลฮงดัม’ (Ilwol Hongdam) ช่างสักชาวเกาหลีใต้ ได้ลงมือสักให้กับผู้คนแล้วกว่า 4,000 คนในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา หลายคนบินมาที่โซลเพื่อพบเขา และด้วยผู้ติดตามมากกว่า 371,000 คนบน Instagram เขาจึงเป็นหนึ่งในช่างสักที่มีชื่อโด่งดังที่สุดในอุตสาหกรรมของเกาหลีใต้ ทว่ามีปัญหาอยู่อย่างเดียวคือ สิ่งที่เขาทำผิดกฎหมาย
ในเกาหลีใต้การมีรอยสักไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย แต่การสักนั้นทำโดยผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ที่มีใบอนุญาตเท่านั้น ซึ่งฮงดัมก็เป็นเหมือนกับช่างสักอีก 3,000 คนที่ลงทะเบียนกับ Korea Tattoo Association หากถูกทางการจับได้พวกเขาต้องโทษจำคุกอย่างน้อย 2 ปีหรือปรับไม่เกิน 1 ล้านวอน
“ศิลปินบางคนวาดบนผ้าใบ แต่บังเอิญเราวาดบนผิวหนัง ทำไมมันถึงผิดกฎหมาย? มันไม่สมเหตุสมผลเลย” ชายวัย 35 ปีบอกกับ Insider
อย่างไรก็ตาม เขามีความหวังว่าการเปลี่ยนแปลงกำลังจะเกิดขึ้นเมื่อการทำให้ช่างสักเป็นเรื่องถูกกฎหมายถูกหยิบขึ้นมาหาเสียงในการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่ผ่านมา โดย “ผู้คนพยายามล็อบบี้เพื่อให้รอยสักถูกกฎหมายมาเป็นเวลานาน แต่ก็ไม่เคยได้รับความสนใจมากเท่ากับในปีที่ผ่านมา” ฮงดัมกล่าว “ฉันหวังว่าพวกเขาจะจริงจังมาก และไม่ใช่แค่ทำทั้งหมดนี้เพื่อดึงดูดกลุ่มคนอายุน้อยที่มีสิทธิ์เลือกตั้ง”
Insider ได้พูดคุยกับช่างสักชาวเกาหลีใต้ประเมิน 7 คน เกี่ยวกับความขัดแย้งในอาชีพ ซึ่งในขณะที่พวกเขาสร้างตัวตนบนโซเชียลมีเดียเพื่อดึงดูดลูกค้า แต่ก็ต้องซ่อนสถานที่สักไว้ที่ห้องใต้ดินเพื่อหลีกเลี่ยงตำรวจ
ช่างสักที่มีชื่อเสียงสามารถสร้างรายได้ 400 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.4 หมื่นบาทต่อชั่วโมง แต่หากเป็นช่างสักที่อายุน้อยก็จะมีรายได้ที่น้อยลง
เหตุผลที่ผิดกฎหมาย
“การมีรอยสลักถาวรบนร่างกายทำให้เกิดความอับอายและถูกมองด้วยสถานะที่ต่ำกว่า เพราะพวกเขาเกี่ยวข้องกับแก๊งอาชญากร” โจ เอลฟ์วิง-ฮวัง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเกาหลีแห่งมหาวิทยาลัยเวสเทิร์นออสเตรเลียกล่าว “แต่ตอนนี้รอยสักเป็นที่นิยมมากในเกาหลี และไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเห็นคนหนุ่มสาวมีรอยสักกัน”
แม้แต่ จองกุก ซุปเปอร์สตาร์จากวง BTS หรือกระทั่งนักแสดงดังอย่าง โซจีซบและจีชางอุค รวมถึงนักร้อง K-Pop อีฮโยริ ต่างก็มีรอยสัก ถึงกระนั้นก็ตามเวลาพวกเราปรากฏตัวบนทีวี รอยสักที่ว่าต้องถูกซ่อนภายใต้เสื้อผ้าอย่างมิดชิด
ถึงทัศนคติทางสังคมจะเปลี่ยนไป แต่กฎหมายของเกาหลีใต้ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง สตูดิโอสักของฮงดัมอยู่ในอาคารสำนักงานที่ไม่มีป้ายที่มองเห็นได้ เขาจะแชร์โลเคชันให้กับลูกค้าก่อนการนัดหมายเท่านั้น ในบางครั้งเขาให้ที่อยู่ของสถานที่อื่นในบริเวณใกล้เคียงแก่ลูกค้าและไปรับพวกเขาจากที่นั่น
ในขณะเดียวกัน โซล (Sol) ช่างสักยอดนิยมอีกคนหนึ่งที่มีผู้ติดตาม Instagram มากกว่า 572,000 คน เปิดสตูดิโอที่ไม่ธรรมดาในย่านฮงแดอันทันสมัย บริเวณนี้เต็มไปด้วยร้านกาแฟสุดฮิปและร้านเสื้อผ้า แต่เมื่อมองดูผนังสีขาวที่เปลือยเปล่านอกร้านของของเขา ผู้คนที่ผ่านไปมาจะไม่มีทางเดาได้เลยว่ามีอะไรอยู่ข้างใน
“คุณไม่สามารถแขวนป้ายไว้นอกร้านสักได้อย่างภาคภูมิใจ ร้านสักทุกแห่งในเกาหลีต้องดำเนินการในที่ส่วนตัว” โซล ผู้ซึ่งเป็นที่รู้จักจากดีไซน์สัตว์และดอกไม้ที่มีดีเทลอันละเอียดอ่อนกล่าว
ตำรวจจะไม่วิ่งไล่จับ กลับกันหากถูกแจ้งเบาะแสกลุ่มช่างสักก็ถูกจับได้เช่นกัน ในปี 2019 ช่างสักรายหนึ่งที่มีนามสกุลคิม ถูกสั่งคุมประพฤติ 3 ปี และปรับ 3 ล้านวอน (2,450 ดอลลาร์) ฐานสักโดยไม่มีใบอนุญาตทางการแพทย์ ตามการรายงานของสำนักข่าว Yonhap ส่วนช่างสักอีกคนเพิ่งถูกคุมประพฤติ 3 ปี และปรับอีก 6 ล้านวอน ด้วยเหตุผลเดียวกัน
อย่างไรก็ตามแม้ช่างสักเกาหลีจำนวนมากจะประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติ แต่พวกเขาบอกว่า เรื่องน่าขันคือพวกเขาได้รับการปฏิบัติเหมือนคนที่ไม่ได้รับการยอมรับ
“เราอาจเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกด้วยโซเชียลมีเดีย แต่ความจริงก็คือธุรกิจของเราไม่สามารถเปิดได้อย่างภาคภูมิใจ” โซลกล่าว “เราไม่ควรถูกมองว่าเป็นหมอเพียงเพื่อสักให้ใครสักคน แต่ตัวตนที่แท้จริงของเราคือนักออกแบบและศิลปิน”
ภาพ: Lam Yik Fei / Getty Images
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP