ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกพุ่งทะยานอีกครั้ง หลัง NATO เล็งส่งกองกำลังประชิดพรมแดนยูเครนเพิ่ม ครอบคลุมน้ำ-บก-อากาศ เพื่อสนับสนุนยูเครนมากขึ้น
เยนส์ สโตลเตนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ NATO เปิดเผยเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (23 มีนาคม) ว่า ทางกลุ่มเตรียมพิจารณาจัดส่งกองกำลังทหารเข้าไปประจำการในพื้นที่แถบยุโรปตะวันออกเพิ่มเติมครอบคลุมทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ ใน 4 ประเทศ คือ บัลกาเรีย, ฮังการี, โรมาเนีย และสโลวาเกีย
เลขาธิการ NATO คาดหวังให้บรรดาผู้นำของชาติสมาชิก NATO เห็นด้วยกับข้อเสนอที่จะให้เสริมกำลังและความแข็งแกร่งของกองทัพ NATO โดยความเห็นของ เยนส์ สโตลเตนเบิร์ก มีขึ้นเพียงไม่นานก่อนที่บรรดาผู้นำชาติสมาชิก NATO จะเข้าร่วมการประชุมฉุกเฉิน เพื่อหาแนวทางจัดการกรณีรัสเซียบุกยูเครน
สำหรับเป้าหมายของการส่งทหารไปยังยุโรปตะวันออกเพิ่มครั้งนี้มีขึ้นเพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากรัสเซีย และเพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนรัฐบาลยูเครนในการต่อสู้กับกองทัพรัสเซียที่รวมถึงการใช้อาวุธเคมี อาวุธชีวภาพ และอาวุธนิวเคลียร์
ทั้งนี้ นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา NATO ได้สั่งเตรียมความพร้อมกองทัพจำนวน 140,000 นาย ในการเตรียมเข้าประจำการในพื้นที่แถบยุโรปตะวันออก ซึ่งจำนวนทหารทั้งหมดนี้เป็นทหารของสหรัฐฯ มากถึง 100,000 นาย
รายงานระบุว่า ขณะนี้ NATO มีทหารประจำการอยู่ในภูมิยุโรปตะวันออกราว 40,000 นาย ซึ่งเข้าประจำการตั้งแต่ทะเลบอลติกไปจนถึงทะเลดำ
ด้านประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ยังร่วมกับสโตลเตนเบิร์ก กล่าวเตือนรัสเซียไม่ให้ใช้อาวุธนิวเคลียร์ในยูเครนด้วย และขอให้รัสเซียยุติการพูดเรื่องการใช้อาวุธนิวเคลียร์อันตรายอย่างไร้ความรับผิดชอบ เพราะอาจทำให้เกิดผลร้ายแรงตามมาได้
ความกังวลต่อสถานการณ์ความขัดแย้งในเชิงภูมิรัฐศาสตร์ยังคงส่งผลต่อราคาน้ำมันดิบในตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีรายงานระบุว่า ทางรัสเซียจำเป็นต้องระงับการให้บริการท่อขนส่งก๊าซนานร่วมเดือน
รายงานระบุว่า ท่อขนส่งดังกล่าวคือท่อลำเลียง Caspian Pipeline Consortium (CPC) ซึ่งอยู่แนวชายฝั่งทะเลดำของรัสเซีย หยุดลงโดยสิ้นเชิงในวันพุธ (23 มีนาคม) หลังได้รับความเสียหายจากพายุลูกหนึ่งและสภาพอากาศที่ยังคงเลวร้าย
ปัจจัยข้างต้นส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้น 5% แตะราคาที่ 121 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 5.66 ดอลลาร์ ปิดที่ 114.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 6.12 ดอลลาร์ ปิดที่ 121.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ด้าน อเล็กซานเดอร์ โนวัค รองนายกรัฐมนตรีของรัสเซีย กล่าวว่า อุปทานน้ำมันจาก CPC อาจหยุดลงโดยสิ้นเชิงเป็นเวลาสูงสุด 2 เดือน โดยท่อลำเลียง CPC ถือเป็นหนึ่งในเส้นทางอุปทานที่สำคัญแห่งหนึ่งสำหรับตลาดโลก ลำเลียงน้ำมันดิบเกรดหลักของคาซัคสถานราว 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือมีสัดส่วนคิดเป็น 1.2% ของอุปสงค์โลก
ขณะเดียวกัน พาเวล โซโรสกิน รองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานอินเดีย ประเมินว่า การซ่อมท่อที่ได้รับผลกระทบอาจกินเวลาตั้งแต่ 6 สัปดาห์ ไปจนถึง 2 เดือน
ขณะเดียวกัน ลุดมีลา โวโรบิเอวา เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำอินโดนีเซีย ได้ออกมาเปิดเผยว่า ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย จะร่วมประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศ G20 ซึ่งอินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพในปีนี้ หลังจากที่ชาติสมาชิกบางรายเรียกร้องให้แบนรัสเซียออกจากกลุ่ม
อ้างอิง:
- https://www.cnbc.com/2022/03/23/nato-leaders-slated-to-bolster-troop-presence-in-bulgaria-hungary-romania-and-slovakia.html
- https://edition.cnn.com/2022/03/23/business/oil-gas-prices-russia-pipeline/index.html
- https://english.kyodonews.net/news/2022/03/a27174314dfa-putin-to-attend-g-20-summit-in-indonesia-russian-envoy.html
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP