รายการ THE INTERVIEW ของ THE STANDARD POP ขอพาทุกคนมาทบทวนและสำรวจมุมมองความรัก ไปพร้อมๆ กับ UrboyTJ ที่เพิ่งปล่อยอีพีอัลบั้ม Happy Never After และเพลงที่เขาบอกว่าเล่าเรื่องราวความรักในมุม ‘ส่วนตัว’ ที่สุด
เป็นความรักของคนขี้แพ้ เป็นตัวสำรอง ยอมได้ทุกอย่าง เสพติดความเจ็บปวด และมีความเชื่อว่า
“ความสุขไม่ได้อยู่กับเราตลอดไป ความทุกข์ก็เช่นกัน”
รับชมรายการแบบเต็มๆ ได้ที่
“ภาพปกอัลบั้ม Happy Never After คือทุกอย่างที่เกิดขึ้นในจินตนาการของผมทั้งหมด เป็นการจินตนาการว่าเราอยากมีความสุขจังเลย เราโหยหาความสุขมาก แต่จริงๆ แล้วความสุขที่กำลังเดินไปหาไม่ได้มีอยู่จริง
“เป็นเราที่คิดไปเองว่าถ้าเดินไปหาแล้วจะมีความสุข สุดท้ายเป็นแค่หุ่น (ในชุดแต่งงาน) ที่ไม่ได้ให้อะไรกลับมาเลย นอกจากให้ความรู้สึกว่าเราจะมีความสุขนะ แต่พอเวลาผ่านไปเราจะรู้สึกว่ามันไม่มีจริง”
UrboyTJ พูดถึงความหมายในภาพปกอัลบั้ม Happy Never After ที่สะท้อนผ่านภาพหุ่นสวมชุดแต่งงาน ในการสัมภาษณ์ช่วงหนึ่งของรายการ THE INTERVIEW กับ THE STANDARD POP
“ผมเชื่อแบบนี้มานานมากๆ แล้วนะ เพราะถูกพ่อแม่สอนมาตั้งแต่เด็กว่าความสุขอยู่กับเราไม่นานหรอก เข้ามาเดี๋ยวมันก็ไป ความทุกข์ก็เหมือนกัน ไม่มีอะไรคงอยู่ตลอดไป
“พอมาทำอัลบั้ม Happy Never After เลยอยากเอาสิ่งที่เชื่อมาเล่าอีกทีว่า ทุกเพลงไม่สมหวังที่ผมทำมาตอนเป็นศิลปินเดี่ยว ตั้งแต่ เค้าก่อน หรือ วายร้าย มันคือความเชื่อแบบนี้ทั้งหมด แล้วอยากย้ำว่าผมเชื่อในเรื่องนี้มากๆ ความความสุขไม่จีรัง
“ผมเข้าใจว่าความสุขมีอยู่จริง พอๆ กับเข้าใจว่าไม่ได้อยู่ตลอดไป ทำให้ทุกครั้งที่มีความสุขเราจะมีความสุขกับมันจริงๆ แต่ไม่คาดหวังว่าจะอยู่ยาวนาน เราจะอยู่กับโมเมนต์ที่เป็นอย่างนั้น แล้วพอหายไปจะไม่เจ็บปวด ซึ่งเราจะเจ็บปวดถ้าเชื่อว่ามันมีอยู่ตลอดไป”
UrboyTJ พูดถึงความเชื่อที่ว่า ความสุขไม่จีรังกับคอนเซปต์อัลบั้ม Happy Never After ในการสัมภาษณ์ช่วงหนึ่งของรายการ THE INTERVIEW กับ THE STANDARD POP
“เพลง ขอเวลานอก เหมือนเอาเพลงเค้าก่อนมาพูดให้ตรงไปตรงมาขึ้นอีก เค้าก่อน ไม่ได้บอกว่าเป็นตัวสำรอง เพลงนี้บอกเลยว่าผมคือตัวสำรอง เป็นขี้แพ้คนหนึ่งที่ทำอะไรก็แพ้ ต้องยอมเขาทุกอย่าง เป็นตัวสำรองโดยที่ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะได้เล่นเป็นตัวจริงด้วยซ้ำ
“เราจะมีบทบาทขึ้นมาเมื่อเขา ขอเวลานอก ซึ่งเป็นเวลาที่เจ็บปวดมากๆ เราไม่ได้แฮปปี้หรอกที่เวลานั้นเป็นของเรา แต่มันทำได้แค่นั้นจริงๆ
“แล้วพอถูกเปลี่ยนตัวลงไปเรายิงประตูได้ด้วยนะ ทำให้ทีมชนะ ได้รับความสำคัญแป๊บหนึ่ง แต่พอแมตช์ต่อไปตัวจริงจะได้กลับไปลงเล่น ส่วนเรากลับไปอยู่บนเก้าอี้ตัวสำรองเหมือนเดิม ความดีในแมตช์ที่แล้วก็หายไป เพราะตัวจริงยังไงก็คือตัวจริง ในอนาคตอาจแทนกันได้ แต่ไม่ใช่วันนี้”
UrboyTJ พูดถึงแนวคิดการเป็นตัวสำรองจากเพลง ขอเวลานอก (Sub) ในการสัมภาษณ์ช่วงหนึ่งของรายการ THE INTERVIEW กับ THE STANDARD POP
“ตอนทำเพลง เรื่องแค่นี้ จำได้ว่านั่งคุยไลน์กับพี่แอ้ม (อัจฉริยา ดุลยไพบูลย์ – นักแต่งเพลง) ตอนตี 2-3 เล่าเรื่องอะไรให้เขาฟังไม่รู้ อยู่ๆ เขาได้คอนเซปต์ขึ้นมาว่า ชีวิตของ UrboyTJ เหมือนดีทุกอย่างเลย มีนู่น มีนี่ มีนั่น ยกเว้นตอนกลางคืน ตี 2-3 ที่ต้องมาเล่าเรื่องเศร้า เรื่องความรักให้คนอื่นฟังตลอดเวลา
“ประโยคท่อนฮุกที่บอกว่า เรื่องแค่นี้ทำไมฉันจะทนไม่ไหว นั่นก็โกหกทั้งนั้น จริงๆ แล้วอยากบอกว่ากูเป็น เป็นหนักด้วย แต่โกหกเพื่อพยายามรักษาตัวเองว่าอยู่ได้นะ ไม่เป็นอะไร แต่จริงๆ แล้วอยู่ไม่ได้
UrboyTJ พูดถึงจุดเริ่มต้นเพลง เรื่องแค่นี้ (Unless) ในการสัมภาษณ์ช่วงหนึ่งของรายการ THE INTERVIEW กับ THE STANDARD POP
“ผมเหมือนคนเสพติดความเจ็บปวด ใช้เวลาอยู่กับมันได้นานมาก คืนนี้คิดถึง คืนต่อไปคิดถึง จนทุกวันนี้ก็ยังคิดถึงอยู่ได้ รู้สึกว่าความเจ็บปวดเป็นเรื่องธรรมดาที่ผมยอมรับมันได้แล้ว
“พอรับมันมาอยู่ในตัว วิธีการระบายของผมคือเขียนมันออกไป เล่าออกมาในเพลง เพื่อทำให้ตัวเองว่างเปล่า เหมือนลบไฟล์ขยะในแฟลชไดรฟ์ให้ว่างเปล่า รับขยะมาเพิ่มอีกแล้วก็เล่าออกไปเหมือนเดิม เป็นลูปเดิมซ้ำๆ (หัวเราะ)”
UrboyTJ พูดถึงวิธีการระบายความเจ็บปวดผ่านบทเพลง ในการสัมภาษณ์ช่วงหนึ่งของรายการ THE INTERVIEW กับ THE STANDARD POP
“ผมรู้สึกนานแล้วว่าอยากเลี้ยงอะไรสักอย่าง เลยลองไปดูสัตว์ที่เลี้ยงง่ายๆ ตอนแรกอยากเลี้ยงปลา แต่คิดว่ายากตอนเปลี่ยนน้ำ เลยจะไปเลี้ยงงูแต่เดี๋ยวคนกลัว ลำบากเวลาเพื่อนมาบ้าน สุดท้ายเลยเลือกเลี้ยงแมว เพราะรู้สึกว่าคาแรกเตอร์ใกล้เคียงกับเรา
“เมื่อก่อนผมเป็นคนอารมณ์ร้อนมาก พอเริ่มเลี้ยงแมวรู้สึกว่าผมเป็นคนซอฟต์ลงค่อนข้างเยอะ พอเราได้แชร์ความรักให้กับอะไรบางอย่าง ซึ่งมันไม่รู้ตัวหรอกว่ามันก็แชร์ความรักกลับมาให้เราเหมือนกัน แล้วเหมือนเป็นการช่วยฮีลลิ่งชีวิตของเราด้วยส่วนหนึ่ง”
UrboyTJ พูดถึงจุดเริ่มต้นการเลี้ยงแก๊งแมว มาโนช มานี มานะ ในการสัมภาษณ์ช่วงหนึ่งของรายการ THE INTERVIEW กับ THE STANDARD POP
“ผมรู้สึกว่าชีวิตค่อนข้างดีขึ้นตั้งแต่ทำอัลบั้ม Selfmade เพราะการมีอัลบั้มเป็นของตัวเองจริงๆ คือสิ่งที่ผมอยากทำเป็นอย่างแรกๆ ในชีวิต พอทำออกมาแล้วเต็มที่ พอใจ ใส่ทุกอย่างลงไปในอัลบั้มนี้หมด พอครบรอบหนึ่งปีก็เลยอยากขอบคุณทุกฟีดแบ็กที่กลับมา
“อยากขอบคุณทุกคนที่ช่วยเข้ามาเติมเต็ม ทำให้ผมไม่ต้องใส่ไอ้ถุงครอบแล้วเอาปากกามาวาดเป็นรอยยิ้ม เพราะผมยิ้มได้ด้วยตัวเองแล้ว เป็นความรู้สึกที่เปลี่ยนชีวิตเหมือนกันนะ”
UrboyTJ พูดถึงอัลบั้ม Selfmade ที่ทำให้รู้สึกว่าสามารถกลับมายิ้มได้ด้วยตัวเองอีกครั้ง ในการสัมภาษณ์ช่วงหนึ่งของรายการ THE INTERVIEW กับ THE STANDARD POP