วันนี้ (4 มีนาคม) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานจากอิทธิพลหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมบริเวณประเทศมาเลเซียและภาคใต้ตอนล่างของประเทศไทย ประกอบกับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ส่งผลให้ฝนตกหนักและคลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้ในห้วงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ – 4 มีนาคม 2565 ทำให้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่รวม 7 จังหวัด ได้แก่ นราธิวาส, ยะลา, นครศรีธรรมราช, พัทลุง, ปัตตานี, สงขลา และตรัง รวม 44 อำเภอ 227 ตำบล 1,122 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 59,563 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 1 ราย
โดยในปัจจุบันยังมีสถานการณ์ในจังหวัดปัตตานี 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองปัตตานี, อำเภอหนองจิก, อำเภอสายบุรี และอำเภอไม้แก่น รวม 16 ตำบล 31 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,604 ครัวเรือน ซึ่งตอนนี้พบว่าระดับน้ำในพื้นที่ลดลง โดย ปภ. ได้ร่วมกับจังหวัด ศูนย์ ปภ. เขต 12 สงขลา จิตอาสาพระราชทาน หน่วยทหารในพื้นที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.), อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.), อาสาสมัคร, มูลนิธิ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ระดมเครื่องสูบน้ำและเครื่องจักรกลสาธารณภัยเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ รวมทั้งให้การดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง โดยสนับสนุนรถผลิตน้ำดื่ม จัดตั้งโรงครัวพระราชทานประกอบอาหารปรุงสุกแจกจ่ายแก่ประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น สำหรับจังหวัดที่สถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้ว ปภ. ได้ประสานจังหวัดจัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ เร่งสำรวจประเมินความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบต่อไป
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ ‘ปภ. รับแจ้งเหตุ 1784’ โดยเพิ่มเพื่อน Line ID: @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง