กรณีสมาคมผู้พิทักษ์ป่าออกแถลงการณ์ขอให้ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าถูกเลิกจ้างและปรับลดเงินเดือน จากที่รัฐบาลปรับลดงบประมาณปี 2565 สำหรับการดูแลป่าลง 47% ส่งผลกระทบให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ต้องเลิกจ้างเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า 1,731 คน คิดเป็น 33% แต่มีเจ้าหน้าที่บางส่วนยอมให้ปรับลดเงินเดือนลง 25% จาก 10,000 บาท เหลือ 7,500 บาท เพื่อแลกกับการไม่ถูกเลิกจ้าง
ต่อมาผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติเปิดเผยว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2561-2565 ถูกลดงบประมาณลงทุกปี แต่ปีนี้ลดมากที่สุด ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าก็มีไม่พออยู่แล้ว โดยเฉลี่ยแล้วเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า 1 คน ต้องดูแลพื้นที่ป่ามากกว่า 10,000 ไร่
ล่าสุดวันนี้ (27 มกราคม) วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ขอขอบคุณแทนเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าไทยที่ทุกท่านห่วงใยและให้ความสำคัญ เมื่อวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา สำนักงบประมาณได้ทำหนังสือแจ้งมาที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน เพื่อเป็นค่าจ้างเหมาพนักงานในการจ้างปฏิบัติงานตามภารกิจสำคัญของกรมอุทยานฯ
วราวุธกล่าวว่า หลังจากที่ผมได้ทำหนังสือขออนุมัติงบกลางไป เพื่อทดแทนกรณีที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมถูกตัดลดงบประมาณในส่วนการจ้างงานของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ซึ่งส่งผลกระทบต่อพนักงานจ้างเหมาของอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ และจะส่งผลให้พนักงานถูกเลิกจ้างสูงถึง 50%
สำนักงบประมาณแจ้งว่า ได้นำเรื่องนี้เสนอนายกรัฐมนตรีพิจารณาแล้ว ซึ่งนายกรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอไป และให้ทางกระทรวงนำเสนอขออนุมัติต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีตามขั้นตอนต่อไป
สำหรับค่าจ้างเหมาพนักงานในการจ้างปฏิบัติงานตามภารกิจของกรมอุทยานฯ 3,999 อัตรา ระยะเวลาการจ้าง 7 เดือน (มีนาคม-กันยายน 2565) อัตราละ 9,000 บาทต่อเดือน จะใช้งบกลางจำนวน 251 ล้านบาท แบ่งเป็นงานอนุรักษ์และป้องกันรักษาป่า 3,556 อัตรา เป็นเงิน 225 ล้านบาท งานควบคุมไฟป่า 368 อัตรา เป็นเงิน 23 ล้านบาท และงานตรวจปราบปรามการค้าสัตว์ป่าระหว่างประเทศ 45 อัตรา เป็นเงิน 2.8 ล้านบาท