วันนี้ (20 มกราคม) ที่อาคารรัฐสภา ไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แถลงชี้แจงหลังพรรคพลังประชารัฐมีมติขับ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า และ ส.ส. รวมทั้งหมด 21 คน โดย 63 เสียง จาก 78 เสียง เห็นชอบให้ขับออกจากพรรค ซึ่งที่ประชุมเกิดขึ้นเนื่องจาก ร.อ. ธรรมนัส ได้มีการเสนอขอปรับโครงสร้างภายในพรรค โดยเฉพาะตำแหน่งสำคัญ แต่ไม่ขอตอบว่าเกี่ยวข้องกับเก้าอี้รัฐมนตรีหรือไม่ และที่ผ่านมาเคยมีพฤติกรรมลักษณะแบบนี้แต่พรรคก็อดทนได้ แต่ครั้งนี้ถือเป็นการอดทนที่ถึงที่สุด และเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญ ซึ่ง พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ได้เสนอให้พิจารณาแต่ไม่ได้ออกความคิดเห็น ซึ่งคณะกรรมการบริหารพรรคเห็นว่า ถ้าไม่ตัดเนื้อร้ายออกจะทำให้พรรคสั่นคลอนและเกิดปัญหาไม่จบ เพราะที่ผ่านมาภาพของพรรคพลังประชารัฐตั้งแต่มี ร.อ. ธรรมนัสเข้ามามีแต่ความขัดแย้งและการต่อรอง
ไพบูลย์ยังกล่าวอีกว่า บทเรียนที่ได้จากการนำ ร.อ. ธรรมนัสเข้ามาให้พรรคจนถึงการขับออก ถือเป็นวิวัฒนาการและก้าวสำคัญที่จะทำให้พรรคเปลี่ยนแปลงไปในสิ่งที่ดีกว่า และจะทำให้พรรคมีเสถียรภาพความมั่นคง เอาคนกลุ่มเดียวออกยังดีกว่าที่จะทำให้พรรคอยู่แบบสั่นคลอน แม้ ร.อ. ธรรมนัสออก แต่ยังทำงานร่วมกันในสภาได้ ส่วนในพรรคพลังประชารัฐไม่มีทางที่จะร่วมงานกันอย่างแน่นอน ให้จับตาต่อไปหลังจากนี้ หลังจากที่พักได้ส่งเอกสารให้กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขณะที่ ร.อ. ธรรมนัสและสมาชิกจะต้องไปหาพรรคใหม่ใน 30 วัน
ไพบูลย์กล่าวอีกว่า การที่ ร.อ. ธรรมนัสยกขบวนออกไม่เกี่ยวกับการยุบสภาหรือจะทำให้สภาล่ม เพราะพรรคประชารัฐยังมีอีกร้อยกว่าเสียง บวกกับพรรคร่วมรัฐบาลอีกจำนวนหนึ่ง และยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะ พล.อ. ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนตำแหน่งที่ว่างลงของ ร.อ. ธรรมนัส ก็จะให้รักษาการเข้ามาทำหน้าที่ และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดวันที่จะประชุมพรรคเพื่อตั้งกรรมการบริหารแทนที่ออกไป