วานนี้ (10 พฤศจิกายน) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กกล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกรณีการชุมนุม 10 สิงหาคม ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถือเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพล้มล้างการปกครอง โดยระบุว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ จะขีดเส้นทางที่สุ่มเสี่ยงและคับแคบให้แก่สังคมไทย
พิธาระบุว่า ในขณะที่การประชุม Universal Periodic Review หรือ UPR ของสหประชาชาติเพื่อทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของประเทศต่างๆ หลายประเทศ ตั้งคำถามอย่างหนักหน่วงถึงท่าทีของประเทศไทยต่อเสรีภาพในการแสดงออก รวมถึงการแก้ไขหรือยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เพื่อให้สอดคล้องกับหลักสากล โดยตัวแทนของประเทศไทยพยายามแก้ต่างกับนานาชาติว่า เรื่องกฎหมายอาญามาตรา 112 เป็นประเด็นที่คนไทยสามารถถกเถียง และแก้ไขกฎหมายได้ผ่านกลไกรัฐสภา
ตัดภาพกลับมาที่ศาลรัฐธรรมนูญในเวลาไล่เลี่ยกัน ศาลได้วินิจฉัยให้การกระทำรวมถึงข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมเพื่อขอให้มีการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ รวมถึงให้ยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เข้าข่ายเป็นการกระทำเพื่อล้มล้างการปกครอง ซึ่งคำวินิจฉัยที่น่ากังขานี้ขัดแย้งโดยสิ้นเชิงกับสิ่งที่ตัวแทนประเทศไทยได้ชี้แจงกับนานาประเทศ
แต่ที่น่ากังวลไปกว่านั้นคือ ผลของคำวินิจฉัยในวันนี้อาจจะนำพาสังคมไทยมุ่งหน้าไปบนเส้นทางที่น่าเป็นห่วง สิ่งที่ศาลรัฐธรรมนูญทำในวันนี้เป็นมากกว่าคำวินิจฉัย แต่เป็นการขีดอนาคตประเทศไทยให้เดินไปตามเส้นทางที่สุ่มเสี่ยงและคับแคบ
พรรคก้าวไกลเชื่อเสมอว่า การปกป้องสิ่งหนึ่งไม่จำเป็นต้องทำลายอีกสิ่งหนึ่ง เราสามารถปกป้องสิ่งที่เรารักด้วยการพยายามปรับเข้าหากันบนฐานของเหตุและผล
ประเทศไทยไม่ได้อับจนหนทางขนาดที่ผู้มีอำนาจต้องกอดแน่นอยู่กับอดีต แล้วกระทำต่อผู้คนที่ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงในฐานะภัยต่อความมั่นคงของชาติ
ประเทศไทยไม่ได้อับจนหนทางขนาดที่ผู้มีอำนาจต้องมองคนรุ่นใหม่เป็นศัตรู แล้วหันปากกระบอกปืนเข้าใส่อนาคตของชาติ
ความพยายามที่จะทำลายอีกฝ่ายหนึ่งลงอย่างราบคาบของผู้มีอำนาจในห้วงเวลาที่ประเทศต้องการอนาคตมากที่สุดเช่นนี้ ไม่มีทางสร้างชาติที่มั่นคงได้เลย
“สุดท้ายผมและพรรคก้าวไกลยังเชื่อว่า สังคมไทยยังพอมีเวลาที่จะเลือกทางเดินอีกแบบ เพื่อไปสู่อนาคตที่ชาติเป็นของคนทุกคนโดยเสมอหน้ากัน พวกเรายังยืนยันที่จะทำงานในฐานะผู้แทนราษฎรอย่างดีที่สุด เพื่อเดินทางไปข้างหน้าร่วมกันกับประชาชนผู้ทรงอำนาจสูงสุดของประเทศนี้ ไม่ว่าเส้นทางนั้นจะยากลำบากเพียงใดก็ตาม” พิธาระบุทิ้งท้าย