ผู้นำรัสเซีย-จีน เรียกร้องให้ประเทศต่างๆ เปิดใจให้กับวัคซีนโควิดสัญชาติตน หลังเวที G20 เปิดฉาก เห็นพ้องช่วยประเทศรายได้น้อย

วานนี้ (30 ตุลาคม) หลังจากที่เวทีการประชุมสุดยอดผู้นำ G20 เปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการ เปิดโอกาสให้ผู้นำ 19 ประเทศ 1 สหภาพยุโรป กลับมาเจอกันอีกครั้งในปีนี้ที่กรุงโรม เมืองหลวงของอิตาลี เพื่อหารือในประเด็นสำคัญต่างๆ โดยเฉพาะวัคซีนโควิดและสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย และประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีน ไม่ได้เดินทางเข้าร่วมการประชุมนี้ด้วยตนเอง แต่ประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เนื่องจากข้อจำกัดด้านการเดินทางช่วงที่สถานการณ์โควิดภายในประเทศยังคงรุนแรงขึ้น โดยผู้นำทั้งสองประเทศเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ เปิดใจให้กับวัคซีนโควิดสัญชาติตน เห็นพ้องช่วยเหลือประเทศรายได้น้อย

ผู้นำรัสเซียระบุว่า “แม้นี่จะเป็นการตัดสินใจของ G20 แต่ก็ไม่ใช่ทุกประเทศที่ต้องการวัคซีนจะเข้าถึงวัคซีนโควิดที่จำเป็นต้องใช้ สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจากสาเหตุหลักๆ มาจากการแข่งขันที่ไม่ตรงไปตรงมา นโยบายการกีดกันทางการค้า รวมถึงมีบางรัฐบางประเทศใน G20 ไม่พร้อมที่จะเปิดใจและรับรองวัคซีนร่วมกัน”

ก่อนหน้านี้รัฐบาลแอฟริกาใต้ปฏิเสธที่จะอนุมัติการฉีดวัคซีนจากรัสเซีย แม้สถานการณ์ภายในประเทศจะต้องการวัคซีนอย่างเร่งด่วน โดยอ้างว่าวัคซีนสัญชาติรัสเซียอาจเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อ HIV ในหมู่ผู้ชาย อีกทั้งวัคซีน Sputnik V ก็ไม่ได้รับการอนุมัติให้ฉีดในแถบสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกา ขณะที่ผู้นำของจีนก็มีความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกันกับผู้นำรัสเซีย

ทางด้านนายกรัฐมนตรีมาริโอ ดรากีของอิตาลี ระบุว่า ประชาคมโลกจะต้องจับตามองและสนับสนุนเป้าขององค์การอนามัยโลก (WHO) ที่ตั้งไว้ว่าพลเมืองโลกราว 40% ควรได้รับวัคซีนโควิดภายในปีนี้ และต้องช่วยกันผลักดันให้ถึง 70% ของพลเมืองโลกภายในช่วงกลางปี 2022

บทความที่เกี่ยวข้อง: