จีนหนีไม่พ้นภาวะ Stagflation หลังราคาสินค้าพุ่งเร็ว ปัญหาหนี้อสังหาฯ ซ้ำเติม

ชาร์ลีน ชู นักวิเคราะห์อาวุโสด้านการเงินมหภาคจีนของบริษัทวิจัย Autonomous Research ให้สัมภาษณ์กับทางสถานีโทรทัศน์ CNBC เกี่ยวกับแนวโน้มสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของจีน ที่พบว่าจีนมีความเสี่ยงเผชิญกับภาวะ Stagflation อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

โดยชูย้ำชัดว่าภาวะเสี่ยงต่อ Stagflation ของเศรษฐกิจจีนดังกล่าวคือ ความจริงที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ไตรมาสข้างหน้าหลังราคาสินค้าหน้าประตูโรงงานปรับตัวเพิ่มขึ้นในอัตราที่เร็วกว่าเดิม บวกกับวิกฤตขาดแคลนพลังงาน และปัญหาหนี้ในภาคอสังหาริมทรัพย์

ทั้งนี้ ภาวะ Stagflation ที่ว่านี้หมายถึงการที่เศรษฐกิจของประเทศหนึ่งๆ เผชิญกับการติดขัดหรือหยุดชะงักของกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง จนทำให้การเติบโตชะลอตัวลง แต่ตัวเลขเงินเฟ้อกลับพุ่งสูงขึ้น โดย Stagflation พบครั้งแรกในช่วงทศวรรษที่ 1970 ที่ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นจนดันราคาสินค้าแพงลิบลิ่ว แต่เศรษฐกิจโดยรวมกลับเข้าสู่ภาวะถดถอย กลายเป็นสถานการณ์ที่ทำให้รัฐดำเนินนโยบายการเงินและการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้ลำบาก

ขณะนี้ ดัชนีราคาผู้ผลิตจีน (Producer Price Index) ในเดือนกันยายน พุ่งขึ้นแตะที่ระดับ 10.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และทำสถิติปรับตัวขึ้นในอัตราที่เร็วที่สุดนับตั้งแต่มีการเก็บบันทึกข้อมูลในเดือนตุลาคม ปี 1996 ขณะที่โรงงานหลายแห่งถูกบีบให้ต้องลดกำลังการผลิตเพราะปัญหาพลังงานไม่พอใช้

สถานการณ์ข้างต้นทำให้ชูมองว่ารัฐบาลจีนไม่อาจจะเดินหน้าใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศได้อย่างสะดวก เพราะหากเร่งกระตุ้นหนักมือไป ก็จะทำให้กลายเป็นผลร้าย เพราะเท่ากับซ้ำเติมให้จีนเผชิญกับภาวะขาดแคลนพลังงานรุนแรงขึ้น กระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนโดยรวม ซึ่งขัดต่อนโยบายบริหารประเทศของประธานาธิบดีสีจิ้นผิงที่มุ่งความอยู่ดีกินดี และการกระจายความมั่งคั่งให้เท่าเทียมทั่วถึง

นอกจากนี้ ปัญหาหนี้ในภาคอสังหาริมทรัพย์ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้จีนต้องพิจารณาการใช้นโยบายกระตุ้นอย่างรอบด้าน โดยชูกล่าวเตือนให้นานาประเทศทั่วโลกเตรียมตัวเตรียมใจรับการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในรูปแบบที่ต่างไปจากเดิม

อย่างไรก็ตาม ชูยังใช้โอกาสนี้แสดงความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจจีนยังคงขับเคลื่อนต่อไปได้ รวมถึงปัญหาวิกฤตหนี้ในภาคอสังริมทรัพย์ ที่แม้จะกระทบต่อการเติบโตของจีนอย่างรุนแรง แต่ก็ไม่สาหัสถึงขั้นสั่นคลอนความเชื่อมั่นในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนโดยรวมได้

อ้างอิง: