ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีเริ่มดิ่งลงอย่างหนักอีกครั้งตั้งแต่ช่วงเช้าของวันนี้ (20 กันยายน) โดยล่าสุด ณ เวลา 19.30 น. ราคา Bitcoin ร่วงลงเกือบ 10% มาเคลื่อนไหวในระดับ 42,900 ดอลลาร์ เช่นเดียวกับ Ethereum (ETH) ที่ร่วงลงราว 10% มาอยู่ที่ระดับ 2,972 ดอลลาร์
สาเหตุที่ทำให้ตลาดโดยรวมปรับตัวในแดนลบตลอดช่วงหลายวันที่ผ่านมา ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเกิดจากปัจจัยใด แต่นักวิเคราะห์จากหลายสำนักต่างคาดว่ามาจากหลายปัจจัย เช่น อาจเกิดจากเหรียญใหญ่อย่าง ETH ที่มีข่าวเชิงลบเข้ามากระทบ
โดยข่าวที่ว่านี้มาจากแพลตฟอร์มมาร์เก็ตเพลสสำหรับ NFTs ชื่อดังอย่าง ‘Opensea’ ที่ดำเนินการอยู่บนเครือข่ายบล็อกเชนของ ‘Ethereum’ ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาตรวจพบว่า พนักงานของ Opensea มีการใช้ข่าววงในการ Front Run หรือการซื้อขายแบบตัดหน้ากับผลงานที่พนักงานรู้ว่าจะได้รับความนิยมแล้วนำไปขายในช่วงที่ราคา NFTs โดดขึ้น ซึ่งกระแสข่าวนี้ถูกเผยแพร่ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา
อีกปัจจัยที่นักวิเคราะห์มองว่ากดดันตลาด คือการที่ ก.ล.ต. สหรัฐฯ มีความเห็นว่า ‘Stablecoin’ (เหรียญคริปโตที่มีมูลค่าเทียบเท่าดอลลาห์) นั้นถูกนำไปใช้ในบริการทางการเงิน เช่น การปล่อยกู้ การฟาร์ม ซึ่งนับว่าเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินชนิดหนึ่ง จึงควรอยู่ภายใต้การควบคุมเช่นเดียวกันกับสินทรัพย์อื่นๆ จึงทำให้ตลาดคริปโตเกิดความผันผวนขึ้นได้
นอกจากนั้นยังมีบางบทวิเคราะห์ที่มองว่า วิกฤตหนี้ของบริษัทอสังหาฯ ในจีน อย่าง Evergrande อาจจะลุกลามเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในสหรัฐฯ ในช่วงวิกฤต Subprime Crisis เมื่อปี 2008 ทำให้เกิดผลกระทบมายังตลาดสินทรัพย์ทางการเงินอื่นๆ ซึ่งตลาดคริปโตก็ถูกมองว่าได้รับผลกระทบจากข่าวนี้ไปเช่นเดียวกัน
อ้างอิง:
