(หมายเหตุ: รายงานชิ้นนี้เผยแพร่เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2564 และข้อมูลได้รับการตรวจสอบตามช่วงเวลาที่ระบุไว้ในเนื้อหาข่าว)
เป็นที่รับทราบกันระยะหนึ่งแล้วสำหรับกรณีที่ผู้ที่ต้องการเดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งมีเกณฑ์การบังคับใช้ข้อจำกัดการเดินทางเข้าประเทศที่แตกต่างกัน อาทิ นโยบายการเปิดรับผู้เดินทางของประเทศปลายทางเอง การจัดกลุ่มความเสี่ยงประเทศต้นทาง หรือการได้รับวัคซีนของผู้เดินทางภายใต้ชนิดที่ประเทศปลายทางกำหนด เป็นต้น ซึ่งผู้เดินทางจำเป็นต้องตรวจสอบนโยบายของประเทศปลายทางก่อนออกเดินทาง
แต่คำถามที่น่าสนใจคือ ความคืบหน้าในการรับรองวัคซีน Oxford-AstraZeneca ที่ผลิตในประเทศไทยของหน่วยงานในต่างประเทศอย่างองค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (European Medicine Agency: EMA) และหน่วยงานระดับโลกอย่างองค์การอนามัยโลก (World Health Organization: WHO) เป็นอย่างไร เพราะมีบางประเทศที่ใช้เกณฑ์เพื่อยกเว้นการใช้ข้อจำกัดด้านการเดินทาง โดยยึดการได้รับวัคซีนที่สองหน่วยงานนี้รับรองเป็นสำคัญ ซึ่งหากย้อนไปเมื่อวันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม อ้างอิงการชี้แจงของกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โดยมีตอนหนึ่งระบุว่า “ขณะนี้สิงหาคม 2564 บริษัท AstraZeneca อยู่ระหว่างการยื่นขอการรับรองวัคซีน AstraZeneca ที่ผลิตในประเทศไทย และแหล่งผลิตอื่นกับ EMA และองค์การอนามัยโลก” อย่างไรก็ดี มีบางประเทศที่ขยายเกณฑ์ยกเว้นข้อจำกัดการเดินทางออกไปให้รองรับวัคซีน Oxford-AstraZeneca ที่ผลิตในประเทศไทยแล้วในขณะนี้
ผู้สื่อข่าวจึงลองสอบถามความคืบหน้าล่าสุดของการรับรองวัคซีน Oxford-AstraZeneca ที่ผลิตในประเทศไทยไปยังหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ ได้รับข้อมูลดังนี้
1. องค์การอนามัยโลก (World Health Organization: WHO)
WHO ตอบคำถามเราผ่านอีเมลเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2564 ระบุข้อความว่า องค์การอนามัยโลกยังไม่ได้รับคำขอเพื่อขึ้นทะเบียนใช้วัคซีนในกรณีฉุกเฉิน (Emergency Use Listing) สำหรับวัคซีน AstraZeneca ที่ผลิตในประเทศไทย
ในการตอบคำถามกับเรา WHO ยังแนบลิงก์ไปยังเอกสารแสดงสถานะของวัคซีนโควิดที่อยู่ระหว่างกระบวนการขึ้นทะเบียนใช้วัคซีนในกรณีฉุกเฉิน ซึ่งมีการปรับปรุงข้อมูลครั้งล่าสุดเมื่อ 19 สิงหาคม 2564 มาให้ด้วย โดยเอกสารฉบับนี้สามารถเข้าไปดูได้ที่นี่
2. องค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (European Medicine Agency: EMA)
EMA ตอบคำถามเราผ่านอีเมลเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2564 ระบุใจความว่า วัคซีนโควิดจาก AstraZeneca ที่ได้รับการยื่นแบบขออนุมัติทางการตลาด, ได้รับการประเมินโดย EMA แล้ว และนำไปสู่การอนุมัติในสหภาพยุโรป คือวัคซีนที่ใช้ชื่อว่า Vaxveria (ซี่งก่อนหน้านี้ใช้ชื่อว่า COVID-19 Vaccine AstraZeneca) เท่านั้น
EMA ยังระบุต่อไปว่า สำหรับวัคซีนที่ได้รับการอนุมัติทางการตลาดในสหภาพยุโรปแล้ว ผู้ถือการอนุญาตดังกล่าวสามารถยื่นคำขอที่จะเพิ่มสถานที่ผลิตเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มปริมาณการผลิตได้ ซึ่ง EMA ไม่ได้สื่อสารเกี่ยวกับคำขอเหล่านี้ (EMA does not communicate on these requests) และหากคณะกรรมการยาสำหรับมนุษย์ของ EMA ยอมรับในการเพิ่มสถานที่ผลิตใหม่เข้าไปในรายการสถานที่ผลิตที่ได้รับอนุมัติแล้ว EMA จะอัปเดตข้อมูลผลิตภัณฑ์วัคซีนดังกล่าวบนเว็บไซต์ของ EMA
EMA ยังระบุว่า เราสามารถดูรายชื่อสถานที่ผลิตที่ได้รับการอนุมัติแล้วสำหรับวัคซีน Vaxveria ได้ในเอกสารภาคผนวก 2 (Annex II) ในหน้า 14 ของเอกสารนี้ โดยจากการตรวจสอบเอกสารนี้ของทีมข่าว ณ วันที่ 29 สิงหาคม 2564 พบว่า ในหน้าดังกล่าวระบุข้อมูลของบรรดาผู้ผลิตสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพและผู้ผลิตที่รับผิดชอบต่อการตรวจปล่อยหรือผ่าน ซึ่งยังไม่ปรากฏชื่อของบริษัทที่เป็นของประเทศไทยแต่อย่างใด
3. บริษัท AstraZeneca (ประเทศไทย) จำกัด และทีมสื่อสัมพันธ์ระดับโลกของ AstraZeneca
24 สิงหาคม 2564 เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังบริษัท AstraZeneca (ประเทศไทย) ก็มีคำตอบกลับมาว่าให้อ้างอิงข้อมูลตามที่ปรากฏอยู่แล้วในหน้าเว็บไซต์ ‘คำถามที่พบบ่อย’ ของ AstraZeneca (ประเทศไทย)
ทั้งนี้ในหน้าเว็บไซต์ดังกล่าว AstraZeneca (ประเทศไทย) ระบุเนื้อหาตอนหนึ่งย้ำถึงการที่รัฐบาลในหลายประเทศได้รับรองวัคซีนป้องกันโควิดของ AstraZeneca ที่ผลิตในประเทศไทย แต่ขอให้ติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทางของการเดินทางเพื่อตรวจสอบเงื่อนไขการเดินทางเข้าประเทศและเงื่อนไขการพำนักในประเทศนั้น
AstraZeneca (ประเทศไทย) ระบุต่อไปว่า เพื่อให้รัฐบาลในประเทศต่างๆ สามารถรับรองวัคซีนป้องกันโควิดที่ผลิตจากเครือข่ายการผลิตทั่วโลกของ AstraZeneca เพื่อวัตถุประสงค์ในการเดินทางได้สะดวกยิ่งขึ้น บริษัทจะดำเนินการขอขึ้นทะเบียนวัคซีนที่ผลิตจากทุกแหล่งการผลิตของ AstraZeneca รวมถึง สยามไบโอไซเอนซ์ สำหรับการใช้ในภาวะฉุกเฉินโดยองค์การอนามัยโลก และเพื่อให้เกิดความชัดเจนยิ่งขึ้น บริษัทกำลังดำเนินการขอจดทะเบียนชื่อ Vaxzevria เพื่อใช้กับวัคซีนป้องกันโควิดของ AstraZeneca ที่ผลิตจากทุกแหล่งผลิตทั่วโลก โดยชื่อ Vaxzevria ได้รับการอนุมัติจากองค์การยาแห่งสหภาพยุโรปและอีกหลายประเทศแล้ว และยืนยันว่าวัคซีนที่ผลิตในไทยมีคุณภาพสูงเทียบเท่าแหล่งผลิตอื่นของ AstraZeneca ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานคุณภาพต่างๆ และการยืนยันคุณภาพทุกขั้นตอน
อนึ่ง หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามทั้งทางโทรศัพท์และอีเมลต่อไปยังทีมสื่อสัมพันธ์ระดับโลกของ AstraZeneca เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมด้วย แต่ทางทีมสื่อสัมพันธ์ระดับโลกของ AstraZeneca ก็ส่งต่อให้กับทาง AstraZeneca (ประเทศไทย) เช่นกัน
ภาพ: Chaiwat Subprasom / SOPA Images / LightRocket via Getty Images