หุ้นไทยวันนี้ (24 สิงหาคม) ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยดัชนีเปิดการซื้อขายพุ่งกว่า 12 จุด และปรับตัวขึ้นไปแตะระดับสูงสุดของช่องการซื้อขายที่ 1,596.49 จุด หรือเพิ่มขึ้น 14.42 จุด และล่าสุด เคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 1595.98 จุด +13.91 จุด หรือ +0.88%
หุ้นกลุ่มที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นนำตลาดคือ กลุ่ม ปตท. และกลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมี รับอานิสงส์ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดย
- PTT ซื้อขายที่ 38 บาท +2 บาท หรือ +5.56%
- KBANK ซื้อขายที่ 118 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
- PTTEP ซื้อขายที่ 108.50 บาท +4 บาท หรือ +3.83%
- OR ซื้อขายที่ 30 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
- GUNKUL ซื้อขายที่ 5 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
- AOT ซื้อขายที่ 61.75 บาท +0.25 บาท หรือ +0.41%
- BANPU ซื้อขายที่ 10.30 บาท +0.20 บาท หรือ +1.98%
- BBL ซื้อขายที่ 113 บาท +0.50 บาท หรือ +0.44%
- PTTGC ซื้อขายที่ 59.50 บาท +1.50 บาท หรือ +2.59%
- IRPC ซื้อขายที่ 3.96 บาท +0.10 บาท หรือ +2.59%
ฝ่ายวิจัย บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า หุ้นไทยวันนี้ฟื้นตัวต่อจากแรงหนุนภายนอกและภายใน โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้แรงหนุนจากการที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) อนุมัติการใช้วัคซีน Pfizer อย่างเต็มรูปแบบ (Full Approval) ซึ่งคาดว่าจะช่วยโน้มน้าวให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนมากขึ้น และจะช่วยให้อัตราการฉีดวัคซีนในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นสู่ 75% จากปัจจุบันอยู่ที่ 60%
ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาน่าผิดหวัง หลัง PMI รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นเดือนสิงหาคม รายงานที่ 55.4 ลดลงจากเดือนก่อนที่ 59.9 ทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงสู่ 93 จุด เป็นปัจจัยบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง
รวมถึงบวกต่อราคาน้ำมันดิบเบรนต์ รีบาวด์แรงถึง +5.48% สู่ 68.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หนุนกลุ่มพลังงานนำตลาด
ขณะที่สถานการณ์การระบาดระลอกที่ 3 (Third Wave) ภายในประเทศ ดูเหมือนจะมีสัญญาณที่ดีขึ้นต่อ โดยยอดผู้ติดเชื้อวันนี้เพิ่มขึ้น 17,165 ราย แบ่งเป็น ทั่วไป 16,973 ราย เรือนจำ 192 ราย เสียชีวิต 226 ราย ขณะที่ยอดหายป่วยกลับบ้านสูงกว่ายอดติดเชื้อใหม่ที่ 20,059 ราย คาดเป็นแรงหนุนตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นต่อ
ทั้งนี้มองกรอบแนวต้านที่ 1594/1600 จุด ส่วนกรอบแนวรับที่ 1572/1565 จุด
ฝ่าวิจัยแนะเก็งกำไร Rebound Play หุ้นใน SET100 ที่ลงมามากกว่า SET -3.33% นับจากจุดสูงสุด 11 มิถุนายน 2564 โดยแนะนำเก็งกำไรกลุ่มลงแรง -24.12% ถึง -9.6% ได้แก่ BANPU, RS, TOP, MAJOR, STEC, PTTEP, PTT, AOT, KTC, PLANB, BEC กลุ่มนี้ TOP, PTTEP, RS เด่น
ส่วนพอร์ตหลักเน้นกลุ่มที่จะ Outperform SET ได้แก่ โรงไฟฟ้า (GPSC, GULF, BCPG) โรงพยาบาล (BDMS, BH) กลุ่มสื่อสารฯ (ADVANC) ส่งออก (KCE, HANA. SAPPE) โรงกลั่น (TOP, PTTGC) ผสานหุ้นที่มีปันผลระหว่างกาล (TVO, LH) คงน้ำหนักหุ้นที่ 55%