กลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นร้อนที่น่าจับตามองในโลกอาหรับ หลังเกิดกระแสข่าวว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีแนวโน้มเตรียมที่จะรับรองให้ ‘กรุงเยรูซาเลม’ เป็นเมืองหลวงของอิสราเอล หนึ่งในประเทศพันธมิตรที่ใกล้ชิดของสหรัฐฯ ซึ่งถือว่าสวนทางกับการดำเนินนโยบายของบรรดาอดีตผู้นำสหรัฐฯ ที่มองว่าปัญหาความขัดแย้งอิสราเอล-ปาเลสไตน์น่าจะใช้การเจรจาสันติภาพระหว่างกันในการแก้ไขปัญหา
สันนิบาตอาหรับและบรรดารัฐอาหรับต่างแสดงจุดยืนพร้อมออกแถลงการณ์เตือนทรัมป์ที่มีกำหนดการจะรับรองกรุงเยรูซาเลมในช่วงกลางสัปดาห์นี้ว่า การกระทำดังกล่าวจะยิ่งทำให้สถานการณ์ความรุนแรงระหว่างอิสราเอล-ปาเลสไตน์แย่ลง และเป็นการทำลายความพยายามในกระบวนการสันติภาพภายในภูมิภาคตะวันออกกลางที่มีมาโดยตลอด
ทางด้าน มาห์มูด อับบาส ประธานาธิบดีปาเลสไตน์ ต่างเร่งหาแนวร่วมเพื่อชี้ให้เห็นถึงผลกระทบที่จะตามมา หากทรัมป์ประกาศรับรองพื้นที่ขัดแย้งดังกล่าวให้เป็นสิทธิของชาวยิวในอิสราเอลแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยอับบาสได้พูดคุยกับบรรดารัฐอาหรับทั้งหลายที่สนับสนุนให้ชาวปาเลสไตน์มีประเทศเป็นของตัวเองมาโดยตลอด รวมถึงพูดคุยกับ เอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส ประธานาธิบดีตุรกี และคณะผู้บริหารขององค์การความร่วมมืออิสลาม (OIC) เพื่อให้สนับสนุนจุดยืนดังกล่าว
โดยเลขาธิการสันนิบาตอาหรับยืนยันว่า “การกระทำของทรัมป์เป็นการกระทำที่ขาดความชอบธรรมและไม่ก่อให้เกิดสันติภาพและเสถียรภาพขึ้นภายในภูมิภาค การตัดสินใจดังกล่าวจะเป็นประโยชน์แก่อิสราเอลซึ่งเป็นปฏิปักษ์กับสันติภาพแต่เพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น” โดยเร่งให้ทรัมป์ทบทวนท่าทีดังกล่าวโดยเร็วที่สุด
Photo: AFP
อ้างอิง: