ถอดบทเรียน ‘แอชตัน อโศก’ คอนโดหรูริมถนนสุขุมวิท กูรูอสังหาฯ ชี้กรณีเลวร้ายสุด อาจต้องคืนเงินพร้อมดอกเบี้ยให้ลูกบ้าน

กรณีโครงการคอนโดมิเนียมหรู ‘แอชตัน อโศก’ ของ บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ (ANAN) ที่ศาลปกครองกลางพิพากษาเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้าง เนื่องจากไม่ชอบด้วยกฎหมาย กลายเป็นกรณีศึกษาและบทเรียนที่ ‘ผู้ซื้อ’ หรือแม้แต่ ‘ผู้ประกอบการ’ ต้องหยิบมาวิเคราะห์กัน เพราะเคสที่เกิดขึ้นแม้จะเป็นเรื่องสุดวิสัย แต่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของบริษัทโดยตรง

“เคสที่เกิดขึ้นคงมีผลต่อภาพลักษณ์ของบริษัทแน่นอน 100% แม้ว่าผู้ฟ้องจะไม่ได้ฟ้องบริษัทอนันดาฯ โดยตรง” สุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินิกซ์ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ แอนด์ คอนซัลแทนซี่ จำกัด วิเคราะห์ให้ THE STANDARD WEALTH ฟัง

สุรเชษฐกล่าวว่า กรณีนี้ผู้ฟ้องได้ฟ้องไปยัง 5 หน่วยงานราชการกับรัฐวิสาหกิจอีก 1 แห่ง ฐานร่วมกันอนุญาตให้อนันดาฯ ก่อสร้างคอนโดมิเนียมโครงการแอชตัส อโศก โดยมิชอบ ซึ่งจะว่าไปแล้วอนันดาฯ ก็ดำเนินการก่อสร้างตามการอนุญาตของหน่วยงานราชการจึงไม่ได้ทำผิดอะไร แถมยังเป็นหนึ่งในผู้รับเคราะห์กรรมร่วมกับผู้ซื้อคอนโดรายอื่นๆ

เขาเชื่อว่าหลังจากนี้ผู้ซื้อคอนโดจะหันมาให้ความสำคัญกับทางเข้าออกที่มากขึ้น หรืออาจจะให้ความสำคัญกับโครงการที่ติดถนนใหญ่ หรือติดทางสาธารณประโยชน์เป็นหลัก ส่วนโครงการที่ไม่ติดอยู่บนที่ทางเหล่านี้ หรือเป็นโครงการที่ตั้งอยู่บนที่ดินซึ่งมีความคลุมเครือ ผู้ซื้อก็คงต้องสอบถามรายละเอียดจากโครงการให้ชัดเจน

“สมัยก่อนคนจะซื้อคอนโดมักจะถามกันว่า โครงการนี้ผ่าน EIA หรือยัง แต่เชื่อว่าหลังจากนี้เขาคงหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องทางเข้าออกมากขึ้น”

สำหรับคดีของโครงการแอชตัน อโศก หลังจากนี้คงต้องรอฟังคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุดว่าจะมีความเห็นต่อเรื่องดังกล่าวอย่างไร หากพิพากษายืนตามคำของศาลปกครองกลาง ทางออกที่ดีที่สุดคิดว่าอนันดาฯ คงจะเลือกวิธีการคืนเงินให้กับผู้ซื้อในราคาที่เปิดขายครั้งแรกพร้อมดอกเบี้ย

ส่วนกรณีผู้ซื้อที่ซื้อต่อจากรายอื่นมา ซึ่งไม่ใช่การซื้อตรงจากอนันดาฯ ตั้งแต่แรกและมีราคาที่สูงกว่า กรณีนี้ก็ต้องถือว่ารับเคราะห์กรรมไป เพราะคงไม่มีสิทธิ์ไปเรียกร้องจากทางบริษัทได้ จากนั้นก็คงต้องไปดูต่อว่า ทางอนันดาฯ จะเอาที่ดินผืนดังกล่าวไปพัฒนาอย่างไรต่อไป

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง