×

KKP Research หั่น GDP ปีนี้จาก 1.5% เหลือ 0.5% ประเมินกรณีเลวร้ายอาจถึงขั้นติดลบ

16.07.2021
  • LOADING...
KKP Research

KKP Research โดยกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ปรับประมาณการ GDP ในปีนี้ลงเหลือ 0.5% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 1.5% พร้อมมองว่าในกรณีเลวร้ายล็อกดาวน์แล้วไม่จบ GDP อาจถึงขั้นติดลบ

 

พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ KKP Research ระบุว่า ปัจจัยหลักที่ทำให้ KKP ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยในปีนี้ลงค่อนข้างมาก คือมาตรการล็อกดาวน์ของภาครัฐ ซึ่งจากสถิติที่ผ่านมาพบว่าทุกครั้งที่มีการล็อกดาวน์การบริโภคภายในประเทศ หรือ Domestic Demand จะลดลง 5-10% จากภาวะปกติ หรือคิดเป็นผลกระทบต่อเศรษฐกิจราว 0.2-0.3% ของ GDP ต่อเดือน ขณะเดียวกัน การลงทุนของภาคเอกชน เช่น ในอุตสาหกรรมก่อสร้างก็จะถูกดีเลย์ออกไป เช่นเดียวกับภาคการท่องเที่ยวที่คงจะยังไม่กลับมาในเร็วๆ นี้

 

“ผมมองว่าตอนนี้ยังไม่ใช่จุดเลวร้ายสุดของไทย เพราะเรายังมีความเสี่ยงสำคัญที่ต้องจับตาดูคือเรื่องการกระจายวัคซีน หากดูจากตัวเลขปัจจุบันที่เรามีจำนวนคนที่ Fully Vaccinated หรือฉีดวัคซีนครบ 2 โดสแล้วแค่ 5% ของประชากร แถมวัคซีนที่ฉีดส่วนใหญ่ยังเป็น Sinovac ซึ่งผลวิจัยก็ออกมาแล้วว่าให้ภูมิไม่สูงและภูมิยังมีโอกาสลดลงเร็ว ก็เป็นไปได้ที่เราอาจจะต้องเผชิญกับภาวะล็อกดาวน์แบบนี้ไปอีก 2-3 เดือน โดยเราประเมินว่าอย่างเร็วที่สุดที่ครึ่งหนึ่งของประชากรไทยจะ Fully Vaccinated ด้วย AstraZeneca ได้คือเดือนกันยายน” พิพัฒน์กล่าว

 

พิพัฒน์ยังกล่าวอีกว่า ในกรณีเลวร้ายตัวเลขผู้ติดเชื้อยังคงไม่ลดลงในช่วงล็อกดาวน์ 3 เดือน และการแพร่ระบาดลุกลามไปจนกระทบภาคการผลิต ภาครัฐอาจจำเป็นต้องใช้มาตรการเคอร์ฟิวคล้ายกับที่มาเลเซียกำลังใช้อยู่ในปัจจุบัน คือหยุดการผลิตทั้งหมด ห้ามคนเดินทางเลย 1-2 สัปดาห์

 

“หากเกิดกรณีเช่นนั้น คือล็อกดาวน์ 3 เดือนบวกกับเคอร์ฟิวอีก 2 สัปดาห์ เศรษฐกิจไทยในปีนี้ก็มีโอกาสติดลบได้เช่นกัน เพราะหากมองย้อนไปภาคธุรกิจไทยต้องเผชิญกับภาวะเปิดๆ ปิดๆ มาตั้งแต่การเริ่มระบาดระลอกที่ 3 ในเดือนเมษายนแล้ว การที่เขาต้องเผชิญกับภาวะแบบนี้นานๆ ปัญหาที่ตามมาคือการขาดสภาพคล่อง ซึ่งหากไม่มีการช่วยเหลือด้วยการฟรีซหนี้เขาจะไม่สามารถเด้งกลับมาได้ และท้ายที่สุดจะเกิดแผลเป็นทางเศรษฐกิจของไทย” พิพัฒน์กล่าว

 

อย่างไรก็ดีพิพัฒน์ยังมองว่า เศรษฐกิจไทยในปีนี้ยังมีภาพบวกใน 3 เรื่อง คือ

1. การเริ่มมองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์จากการมาถึงของวัคซีน ซึ่งต่างจากปีที่ผ่านมาที่ยังไม่มีภาพนี้
2. ภาคการส่งออกที่ขยายตัวได้ดีตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
3. ภาคการเกษตรในต่างจังหวัดที่ยังเติบโตได้

 

“เรามองว่าการส่งออกจะเป็นความหวังในปีนี้ และการที่ภาคเกษตรยังเติบโตก็เป็นเรื่องดี อย่างไรก็ตามการที่กรุงเทพฯ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 50% ของ GDP ต้องอยู่ภายใต้การล็อกดาวน์ น้ำหนักของปัจจัยบวกอาจมีไม่มาก” พิพัฒน์กล่าว

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X