การระบาดของโควิดในประเทศระลอกใหม่ที่เริ่มรุนแรงมากขึ้นตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา จนนำมาสู่การประกาศล็อกดาวน์อีกครั้ง ซึ่งส่วนหนึ่งของมาตรการคือการขอความร่วมมือให้ประชาชนลดการสัญจรไปมา รวมถึงการขอให้บริษัทต่างๆ มีนโยบายให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน (Work from Home)
สุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) กล่าวกับ THE STANDARD WEALTH ว่า ในส่วนของบีทีเอสเองไม่ได้ปรับแผนธุรกิจใดๆ มากนัก ซึ่งธุรกิจในส่วนของการรับจ้างเดินรถอาจจะไม่กระทบมากนัก แต่รายได้จากกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน BTSGIF (ลงทุนในรายได้ค่าโดยสารสุทธิที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินงานรถไฟฟ้าสายสีเขียวหลัก) น่าจะกระทบพอสมควร
“ผลจากการล็อกดาวน์น่าจะคล้ายกับเมื่อปีก่อน ก็หวังว่าผลกระทบจะเกิดขึ้นในระยะสั้น อย่างที่ผ่านมาหลังจากล็อกดาวน์แล้วก็ฟื้นกลับมาได้เร็ว แม้ว่าจะไม่ได้ฟื้นกลับมาทั้ง 100%”
ทั้งนี้หลังจากที่รายได้ของบริษัทลดลงไป สิ่งที่ต้องทำคือการพยายามลดค่าใช้จ่าย แต่ขณะเดียวกันก็ต้องพยายามป้องกันพนักงานของเราไม่ให้มีความเสี่ยง และให้ความมั่นใจกับผู้โดยสารควบคู่กันไปด้วย
“ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการระบาดรอบนี้ทำให้จำนวนผู้โดยสารลดต่ำลงไปใกล้เคียงกับเมื่อเดือนเมษายนปีก่อน เหลือประมาณ 20% จากระดับปกติ ซึ่งสถานการณ์ตอนนี้ก็เป็นห่วงว่าอาจจะลดลงไปต่ำกว่านั้นได้ แต่ ณ วันนี้ตัวเลขยังใกล้เคียงกับเมื่อปีก่อน ส่วนเป้าหมายรายได้ของบริษัทที่เดิมทีคาดว่าจะฟื้นตัวได้เล็กน้อยในปีนี้ ตอนนี้ก็อาจจะยากขึ้น แต่เรายังไม่ปรับเป้าหมายใดๆ อยากรอดูว่าผลกระทบในรอบนี้ก่อนว่าจะเป็นอย่างไร”