แพท เกลซิงเกอร์ ซีอีโอ ของ Intel ผู้ผลิตชิปคอมพิวเตอร์รายใหญ่ของโลก คาดว่าปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ในอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จะเริ่มคลี่คลายและมีทิศทางดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
“อุปสงค์และอุปทานของชิปคอมพิวเตอร์ในตลาดจะไม่เข้าสู่จุดสมดุลจนกว่าจะถึงปี 2023 แต่ปัญหาการขาดแคลนจะถึงจุดต่ำสุดในช่วงครึ่งปีหลังก่อนจะเริ่มปรับตัวดีขึ้น” เกลซิงเกอร์ ระบุ
เกลซิงเกอร์ กล่าวว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และวิถีชีวิตแบบ New Normal ที่คนหันมาทำงานและติดต่อสื่อสารกันในรูปแบบดิจิทัลมากขึ้น ทำให้ความต้องการชิปคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สมัยใหม่พุ่งสูงขึ้นจนอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ไม่สามารถผลิตสินค้าได้ทันต่อความต้องการของตลาด
เกลซิงเกอร์ กล่าวว่า การมีโรงงานผลิตชิปเป็นของตัวเองทำให้ Intel อยู่ในสถานะที่ได้เปรียบผู้ผลิตเจ้าอื่นๆ ซึ่งไม่มีกำลังผลิตของตัวและต้องจ้างบริษัทอื่นผลิตให้ โดยเขาคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมการผลิตชิปคอมพิวเตอร์จะมีแนวโน้วเติบโตต่อเนื่องไปตลอดทศวรรษที่กำลังจะมาถึง จากกระแสการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีของโลกไปสู่ระบบ 5G รถยนต์ไฟฟ้าและปัญญาประดิษฐ์
เมื่อเร็วๆ นี้ แคนอน หวง ซีอีโอของ Chang Wah Electromaterials and Chang Wah Technology ผู้ผลิตชิปจากไต้หวันเปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทผู้ผลิตชิปทั่วโลกกำลังเร่งขยายกำลังการผลิตของตัวเองอย่างเต็มที่เพื่อรองรับอุปสงค์ในตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น
“มันเป็นเรื่องอันตรายหากคุณไม่ขยายกำลังการผลิตให้ทันกับผู้ผลิตรายอื่นๆ ในตลาด เพราะมันหมายถึงการสูญเสียส่วนแบ่งทางการตลาดและโอกาสการเติบโต อย่างไรก็ดี บริษัทที่ดีจะต้องมีแผนบริหารจัดการความเสี่ยงในกรณีที่เกิดการถดถอยหรืออุปสงค์ที่ลดลงในอนาคตด้วย” หวง กล่าว
ไม่นานมานี้ Intel และ TSMC สองผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของโลก ต่างประกาศแผนการขยายธุรกิจครั้งใหญ่ ขณะที่ Nanya Tech and United Microelectronics ผู้ผลิตชิปจากไต้หวัน ก็ประกาศแผนจะสร้างโรงงานผลิตเพิ่มเขึ้นเช่นกัน
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: