บาห์เรนเป็นหนึ่งในประเทศแรกๆ ของโลกที่สนับสนุนการใช้งานวัคซีนต้านโควิด-19 จากบริษัท Sinopharm ของจีนตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยมีการอนุมัติใช้งานฉุกเฉินตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคม แม้จะยังมีการตั้งข้อสังเกตจากนักวิทยาศาสตร์บางรายถึงข้อมูลประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีนที่ค่อนข้างน้อย
โดยสถานการณ์โควิด-19 ในบาห์เรน ณ ปัจจุบัน ทำให้เกิดข้อสงสัยถึงประสิทธิภาพของวัคซีนจาก Sinopharm เนื่องจากแม้จะมีการให้วัคซีนแก่ประชาชนแล้วเกือบ 50% แต่ยังคงปรากฏกรณีการระบาดระลอกใหม่ที่รุนแรงกว่าเดิมในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อวานนี้ (3 มิถุนายน) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มเกือบ 2,000 คนในวันเดียว ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มสูงกว่า 240,000 คนจากประชากรทั้งหมดราว 1.6 ล้านคน และทำให้รัฐบาลต้องบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์เป็นเวลา 2 สัปดาห์เพื่อควบคุมสถานการณ์
วัคซีนของ Sinopharm ที่บาห์เรนเลือกใช้เป็นวัคซีนหลักในการป้องกันโควิด-19 พัฒนาจากสถาบันผลิตภัณฑ์ชีวภาพปักกิ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่กี่สัปดาห์องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ขึ้นบัญชีรับรองการใช้งานฉุกเฉินแก่วัคซีนตัวนี้ ซึ่งเป็นวัคซีนต้านโควิด-19 จากจีนตัวแรกที่ผ่านการรับรอง
แต่กรณีการระบาดของโควิด-19 ที่ยังพุ่งสูงขึ้น ทำให้ทางการบาห์เรนต้องประกาศในช่วงสัปดาห์นี้ ว่าจะฉีดวัคซีนของ Pfizer-BioNTech ให้แก่ประชาชนกลุ่มความเสี่ยงสูงที่ได้รับการฉีดวัคซีนจาก Sinopharm ครบ 2 โดสแล้ว เนื่องจากมองว่าประสิทธิภาพในการป้องกันโควิด-19 จากวัคซีนของ Sinopharm นั้นยังไม่เพียงพอ
Waleed Khalifa al-Manea ปลัดกระทรวงสาธารณสุขบาห์เรน เปิดเผยต่อ The Wall Street Journal ในบทความที่เผยแพร่เมื่อวานนี้ ระบุว่าทางการบาห์เรนเรียกร้องให้ประชาชนที่อายุเกิน 50 ปี และมีอาการป่วยเรื้อรังหรือโรคอ้วน ซึ่งได้รับการฉีดวัคซีน Sinopharm ครบทั้ง 2 โดส เมื่อ 6 เดือนที่แล้ว ควรเข้ารับการฉีดวัคซีนจาก Pfizer เพิ่มเติม
สำหรับระบบการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของบาห์เรนนั้น ประชาชนสามารถจองรับการฉีดวัคซีนผ่านแอปพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือได้ และตอนนี้สามารถเลือกได้ว่าจะฉีดวัคซีนของ Sinopharm หรือ Pfizer โดยในกลุ่มความเสี่ยงสูงนั้นจะได้รับคำแนะนำให้ฉีดวัคซีนของ Pfizer
ส่วนในประเทศเพื่อนบ้านอย่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ที่พึ่งพิงการใช้วัคซีนต้านโควิด-19 จาก Sinopharm ในการเร่งกระจายฉีดวัคซีนให้ประชาชนเช่นเดียวกับบาห์เรน ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าทางการยูเออีประกาศจะเสนอฉีดวัคซีน Sinopharm โดสที่ 3 ให้แก่ประชาชนเพื่อกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันให้มากขึ้น หลังผลศึกษาวิจัยหลายฉบับแสดงให้เห็นว่า ผู้รับการฉีดวัคซีน Sinopharm บางรายไม่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายได้มากพอที่จะป้องกันโควิด-19
โดยยูเออีนั้นเป็นหนึ่งในประเทศที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ประชาชนสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ซึ่งทางการอ้างว่า สามารถฉีดวัคซีนให้ประชาชนอายุเกิน 16 ปีขึ้นไปได้มากถึง 81.93% และเกือบ 93% สำหรับกลุ่มอายุเกิน 60 ปี จากจำนวนประชากรทั้งหมด 9.7 ล้านคน
แต่สถานการณ์ระบาดในยูเออี ณ ปัจจุบัน ยังอยู่ที่วันละเกือบ 2,000 คน ซึ่งลดลงไม่มากนัก หากดูจากยอดผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดเฉลี่ย 3,000-4,000 คนในช่วงเดือนมกราคม
นอกจากสองประเทศอาหรับยังมีอีกหลายประเทศ เช่น ชิลี อุรุกวัย และเซเชลส์ ที่ใช้วัคซีนจาก Sinopharm เป็นวัคซีนหลักในการเร่งกระจายฉีดให้ประชาชน แต่ยังเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศเพิ่มสูงขึ้น
ซึ่งในกรณีของเซเชลส์นั้นทำให้เกิดการตั้งคำถามถึงประสิทธิภาพของวัคซีน เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มมากขึ้น จากวันละ 30-180 คนเมื่อเดือนเมษายน เป็นกว่า 400 คนในเดือนพฤษภาคม แม้จะมีการฉีดวัคซีนให้ประชาชนแล้วมากกว่า 60%
อย่างไรก็ตาม จากรายงานของ WHO ที่เผยแพร่ก่อนหน้านี้ระบุว่าวัคซีนของ Sinopharm มีอัตราประสิทธิภาพในการยับยั้งการติดเชื้อแบบแสดงอาการในกลุ่มผู้ใหญ่อายุตั้งแต่ 18-59 ปีได้สูงถึง 79% โดยอ้างอิงข้อมูลหลักฐานจากการทดลองทางคลินิกในจีน บาห์เรน อียิปต์ จอร์แดน และยูเออี
แต่สำหรับกลุ่มอายุเกิน 60 ปีนั้น WHO ให้ความมั่นใจต่อประสิทธิภาพวัคซีนในระดับต่ำ และต่ำมากในกรณีผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน เนื่องจากข้อมูลการพิจารณาที่ไม่มากพอ
ทางด้านรัฐบาลจีนและผู้แทนของบริษัท Sinopharm ไม่มีการออกมาแสดงท่าทีใดๆ ต่อการตั้งข้อสังเกตถึงประสิทธิภาพของวัคซีน Sinopharm ซึ่งที่ผ่านมาจีนเองก็ใช้เป็นวัคซีนหลักในการป้องกันการระบาดของโควิด-19
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญบางรายชี้ว่าวัคซีนของ Sinopharm ยังคงใช้ได้ผลในกรณีส่วนใหญ่ และอาจมีบทบาทสำคัญท่ามกลางภาวะขาดแคลนวัคซีนที่เกิดขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะในโครงการแบ่งปันวัคซีน หรือ COVAX ที่ WHO สนับสนุน ซึ่งทางการจีนเปิดเผยเมื่อต้นสัปดาห์ว่า ได้เริ่มต้นการผลิตวัคซีน Sinopharm จำนวน 10 ล้านโดสสำหรับโครงการ COVAX แล้ว ขณะที่คาดว่าจะสามารถผลิตและกระจายวัคซีนไปทั่วโลกได้มากถึง 1 พันล้านโดสภายในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้
พิสูจน์อักษร: ชนเนตร ลอยครุฑ
อ้างอิง:
- https://www.washingtonpost.com/world/2021/06/03/bahrain-seychelles-sinopharm-vaccine/
- https://www.reuters.com/business/healthcare-pharmaceuticals/sinopharm-able-provide-over-1-bln-covid-19-vaccine-doses-rest-world-h2-2021-2021-06-02/
- https://www.thenationalnews.com/uae/health/uae-covid-19-vaccine-drive-crosses-80-per-cent-threshold-1.1233610