สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานว่า ทางการจีนจะอนุญาตให้ประชาชนมีลูกได้มากขึ้นเป็น 3 คน ถือเป็นการสิ้นสุดนโยบายที่กำหนดให้มีลูกได้ไม่เกิน 2 คนซึ่งใช้มาตั้งแต่ปี 2016 การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวได้รับการอนุมัติโดยประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ในการประชุมคณะกรรมการกรมการเมืองของพรรคคอมมิวนิสต์จีน (โปลิตบูโร)
การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นหลังมีการเผยผลการสำรวจสำมะโนประชากรจีนในเดือนนี้ ซึ่งได้ผลออกมาว่าปี 2020 ที่ผ่านมา จีนมีทารกเกิดใหม่ราว 12 ล้านคน น้อยกว่าตัวเลขเมื่อปี 2016 ซึ่งอยู่ที่ 18 ล้านคน และเป็นสถิติจำนวนการเกิดที่ต่ำที่สุดตั้งแต่ทศวรรษ 1960 ผลดังกล่าวทำให้มีการคาดการณ์กันในวงกว้างว่ารัฐบาลจีนจะผ่อนคลายนโยบายเกี่ยวกับการมีบุตร
ทางการจีนใช้นโยบาย ‘ลูกคนเดียว’ มาตั้งแต่ปี 1979 นโยบายดังกล่าวมีผลลดการเติบโตของจำนวนประชากร และผู้ที่ละเมิดนโยบายอาจต้องถูกปรับเงิน เลิกจ้าง หรือบางครั้งก็อาจเผชิญกับการถูกบังคับให้ยุติการตั้งครรภ์ การยกเลิกนโยบายลูกคนเดียวในปี 2016 นั้นอนุญาตให้ประชาชนมีลูกได้เพิ่มเป็น 2 คน ทว่ายังไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแนวโน้มอัตราการเกิดที่ลดลงได้ ทั้งๆ ที่เมื่อมีการใช้นโยบายลูก 2 คนในปี 2016 ทำให้อัตราการเกิดต่อจำนวนประชากรในปีเดียวกันและปีถัดจากนั้นสูงกว่าปีก่อนหน้า แต่หลังจากนั้นอัตราการเกิดต่อจำนวนประชากรก็ลดต่ำลงอีก 4 ปีติดต่อกัน
นอกจากนี้การประกาศจากโปลิตบูโรยังระบุว่า จะเพิ่มการให้งบประมาณสำหรับการขยายบริการสำหรับผู้สูงอายุ และให้คำมั่นว่าจะปรับปรุงการลาคลอด และ ‘ปกป้องสิทธิที่ถูกต้องตามกฎหมายและผลประโยชน์ของผู้หญิงในการจ้างงาน’ ตลอดจนบอกว่านโยบายมีลูกไม่เกิน 3 คนยังจะช่วย ‘รักษาข้อได้เปรียบของประเทศของเราในด้านสมรรถนะของทรัพยากรมนุษย์’
จากข้อมูลของรัฐบาลจีน ในปี 2020 จีนมีประชากรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปอยู่ที่ราว 264 ล้านคน หรือร้อยละ 18.7 ของประชากรทั้งหมด ซึ่งตัวเลขนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 300 ล้านคนหรือราว 1 ใน 5 ของประชากรภายในปี 2025
ภาพ: Zhang Jiancheng / VCG via Getty Images
พิสูจน์อักษร: ชนเนตร ลอยครุฑ
อ้างอิง:
