ไบเดนสั่งหน่วยข่าวกรองสืบต้นตอโควิด-19 ใหม่ หลังรายงานเผยทฤษฎีไวรัสรั่วจากแล็บอู่ฮั่น

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ สั่งการให้สำนักงานข่าวกรองสืบสวนและจัดทำรายงานต้นตอการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ฉบับใหม่ หลังจากที่รายงานล่าสุดเผยข้อมูลและข้อสังเกตเกี่ยวกับทฤษฎีการรั่วไหลของเชื้อโควิด-19 จากห้องปฏิบัติการในสถาบันไวรัสวิทยาที่เมืองอู่ฮั่นของจีน

ในแถลงการณ์จากทำเนียบขาวที่เผยแพร่ออกมาเมื่อวานนี้ (26 พฤษภาคม) ไบเดนระบุว่าเขาได้ขอให้ประชาคมข่าวกรองเพิ่มความพยายามเป็นสองเท่าในการตรวจสอบต้นตอที่แน่ชัดของโควิด-19 และสาเหตุที่นำไปสู่การแพร่ระบาดใหญ่ทั่วโลก

“ตอนนี้ผมได้ขอให้หน่วยข่าวกรองเพิ่มความพยายามในการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเป็นสองเท่า ซึ่งจะทำให้เราเข้าใกล้ข้อสรุปที่ชัดเจนมากขึ้น และรายงานกลับมาที่ผมภายใน 90 วัน” ไบเดนระบุ พร้อมทั้งเสริมว่าได้ขอให้มีการสืบสวนเพิ่มเติมในประเด็นที่จำเป็น ซึ่งรวมถึงการตั้งคำถามเฉพาะไปยังจีน

“นอกจากนี้สหรัฐฯ จะยังคงทำงานร่วมกับพันธมิตรที่มีใจเดียวกันทั่วโลก เพื่อกดดันให้จีนเข้าร่วมการสืบสวนระหว่างประเทศที่โปร่งใสและมีหลักฐานเชิงประจักษ์อย่างเต็มรูปแบบ และเพื่อให้สามารถเข้าถึงข้อมูลและหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด” เขากล่าว

ทั้งนี้ ไบเดนระบุว่าหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ได้รวบรวม 2 สถานการณ์ที่มีแนวโน้มเป็นไปได้ในการก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน โดยสถานการณ์แรกซึ่งได้รับการยอมรับจากนักวิทยาศาสตร์ว่าเป็นไปได้ คือไวรัสแพร่เชื้อจากสัตว์สู่คนตามธรรมชาติ และอีกสถานการณ์คืออุบัติเหตุที่ทำให้ไวรัสหลุดออกมาจากห้องปฏิบัติการของสถาบันไวรัสวิทยาในอู่ฮั่น

ขณะที่ก่อนหน้านี้มีการเผยแพร่รายงานข่าวที่อ้างข้อมูลจากหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ว่านักวิจัย 3 คนของสถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่นเกิดอาการป่วยหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาลในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2019 ซึ่งเป็นช่วงไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่ทางการจีนจะยอมรับว่าเกิดการระบาดของโควิด-19 ขึ้น

ด้าน ซาเวียร์ บีเซอร์รา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและบริการประชาชนสหรัฐฯ กล่าวในที่ประชุมประจำปีขององค์การอนามัยโลก (WHO) เมื่อวันอังคาร (25 พฤษภาคม) ขอให้ผู้เชี่ยวชาญระหว่างประเทศได้รับอิสระในการประเมินแหล่งที่มาของไวรัส และการระบาดที่เกิดขึ้นในช่วงต้น

โดยที่ผ่านมา WHO ได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่ไปยังจีนเพื่อทำการสืบสวนต้นตอการระบาดของโควิด-19 เป็นเวลา 4 สัปดาห์ในช่วงต้นปี และมีการประสานงานกับรัฐบาลจีนในการสืบสวน ก่อนที่ WHO จะสรุปรายงานที่เผยแพร่ในเดือนมีนาคมว่า การแพร่เชื้อไวรัสจากค้างคาวสู่คนผ่านสัตว์พาหะอื่นๆ นั้น เป็นสถานการณ์ที่เป็นไปได้มากที่สุด ส่วนทฤษฎีการรั่วไหลของเชื้อไวรัสจากห้องแล็บในอู่ฮั่นนั้นไม่น่าเป็นไปได้อย่างมาก

ซึ่งข้อสรุปที่ได้ยังก่อให้เกิดคำถามเกี่ยวกับระดับในการประเมินของทีมสืบสวน และมี 14 ประเทศที่แสดงความกังวลต่อรายงานสรุปของ WHO โดยชี้ว่ามีความล่าช้าและขาดการเข้าถึงข้อมูลทั้งหมดที่จำเป็นต่อการสืบสวน

ทางด้านสถานเอกอัครราชทูตจีนในสหรัฐฯ ได้ออกแถลงการณ์ผ่านทางเว็บไซต์ช่วงเย็นวานนี้ โดยวิจารณ์ท่าทีล่าสุดของไบเดน ระบุว่าการเล่นการเมืองในประเด็นดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการสืบสวนต้นตอโควิด-19 เพิ่มเติมและบั่นทอนความพยายามของทั่วโลกในการยับยั้งการระบาดของไวรัส ซึ่งจีนสนับสนุนการศึกษากรณีการระบาดของโควิด-19 ที่พบทั่วโลกในช่วงต้นทั้งหมดอย่างครอบคลุม และสนับสนุนให้มีการสืบสวนห้องปฏิบัติการลับด้านชีววิทยาที่มีอยู่ทั่วโลกด้วย

ภาพ: Demetrius Freeman / The Washington Post via Getty Images

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

อ้างอิง: