ปัจจุบันวิถีชีวิตคนเราเปลี่ยนไปมาก การทำงานหลายๆ อย่างก็ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การเข้าออฟฟิศตอกบัตร แต่เราสามารถทำงานที่ไหนก็ได้ แม้แต่บนเตียงนอนในบ้านเรา นอกเหนือจากการทำงาน การใช้ชีวิตอื่นๆ ก็ยังแทบจะไม่ต้องเคลื่อนย้ายตัวไปไหน จะช้อปปิ้งออนไลน์ จะสั่งร้านอาหารเจ้าดังมากินแบบไม่ต้องไปยืนต่อแถวรอ นอนอยู่บ้านสวยๆ ก็สามารถทำทุกสิ่งอย่างได้ สิ่งเหล่านี้ยิ่งทำให้เราเป็นคนติดบ้าน และรักการซุกตัวอยู่บนเตียงนุ่มๆ อุ่นๆ
เราลองมานั่งเช็กดูว่า ‘บ้าน’ ควรตอบโจทย์อะไรให้ชมรมคนติดบ้าน
บ้านต้องเป็นเหมือนสวน (สนุก)
หากไม่ต้องออกไปทำธุระหรือใช้ชีวิตนอกบ้าน การได้ใช้เวลาอยู่บ้านและหากิจกรรมสนุกๆ ทำได้เสมอจนไม่มีคำว่า เบื่อ คงเป็นวิถีชีวิตในฝันของคนติดบ้าน เช่น ถ้าคุณเป็นคนรักธรรมชาติ อาจลองสรรหากิจกรรมทำอย่างการปลูกต้นไม้ หรือหากบ้านที่คุณอาศัยอยู่มีพื้นที่ที่เป็นธรรมชาติมากพอ ก็อาจจะเปลี่ยนบรรยากาศหากิจกรรมทำให้ดูน่ารักขึ้นอย่างการปิกนิกที่บ้าน กิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ คนติดบ้านมักจะหาทำได้เสมอ จะดีแค่ไหนถ้าอยู่บ้านแล้วมีกิจกรรมให้ทำไม่มีเบื่อ
บ้านคือโรงหนังสุดโรแมนติก
หากคุณเป็นคนที่รักการดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ แต่เบื่อหน่ายที่ต้องเดินทางฝ่าการจราจรออกไปโรงหนังเพื่อดูหนังสักเรื่อง คงจะดีไม่น้อยหากบ้านสามารถเป็นโรงหนังให้คุณได้และจะยิ่งดีขึ้นไปอีก หากโรงหนังสามารถกลายร่างเป็นวิวสุดโรแมนติก ลองจินตนาการดูว่า เมื่อตะวันลับขอบฟ้าก็ถึงเวลาของความบันเทิงแบบเอาต์ดอร์บน Star Scene Space เป็นพื้นที่ที่สามารถนอนดูหนังในโรงภาพยนตร์เปิดโล่งที่ให้ความรู้สึกราวกับอยู่บนยอดเขาสูง จะดูหนังเรื่องโปรดหรือนอนนับดาวกับคนรู้ใจก็ไม่มีใครห้าม
บ้านคือที่ที่มีเตียงนุ่มๆ ให้เราทิ้งตัว
หากคุณชอบหรือหลงใหลการหมกตัวอยู่ในผ้าห่มแสนอบอุ่น จิบเครื่องดื่มแกล้มขนมขบเคี้ยว ละเลียดดูซีรีส์เรื่องโปรดทั้งวันผ่านสตรีมมิงออนไลน์ หรือนอนฟังเพลงโปรด เช็กอีเมลงาน ทำทุกอย่างได้หมดบนเตียงนุ่มๆ ของคุณ คุณอาจกำลังเป็นคนติดบ้านที่เข้าข่ายของ ‘Internest’ …แล้ว Internest คืออะไร? ลองมองไปรอบๆ คุณอาจจะเริ่มสังเกตเห็นเพื่อนเราที่มีความสุขและสนุกกับซุกตัวนอนอยู่แต่ในบ้านในวันหยุด ทั้งหมดในบ้านโดยที่ยังอัพเดตเทรนด์โลกได้อย่างไม่มีหลุด ขอเพียงให้บ้านมีอินเทอร์เน็ตก็พอ แต่ต่อให้ติดบ้านแค่ไหน แต่เชื่อเถอะว่า เรายังต้องการเทคโนโลยีที่ดีเสมอเพื่อเชื่อมต่อกับโลกภายนอก และช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้เราเสมอ
บ้านคือที่ทำงานหรือร้านอาหารเจ้าประจำ
พูดถึงเรื่องการทำงาน บางเวลาที่อยากขยับตัวจากเตียงนอน เราก็คงอยากจะมีพื้นที่ดีๆ ที่ให้เราได้นั่งทำงาน และถ้าที่นั่งทำงานสามารถสร้างความสนุกอื่นๆ ได้อีกคงดีไม่น้อย เพราะหากคุณไม่ได้เป็นเชฟ คงไม่มีทางที่ที่ทำงานกับครัวจะอยู่ด้วยกัน จะดีแค่ไหนถ้าในโครงการบ้านที่เราอยู่มี Co-working Space ไว้นั่งสะสางงาน และ Co-kitchen ครัวส่วนกลางที่เอาไว้โชว์ฝีมือปรุงอาหารเพื่อสร้างสรรค์เมนูสุขภาพแสนอร่อย คราวนี้จะ cook หรือจะ work ก็ทำได้ไปพร้อมๆ กัน
บ้านคือที่ซุกตัวอันแสนอบอุ่นหลังปาร์ตี้
สุดสัปดาห์เมื่อเพื่อนชวนไปแฮงเอาต์กันเก๋ๆ ที่ทองหล่อ เคยไหมเวลาที่ต้องออกไปปาร์ตี้สังสรรค์กับเพื่อน แม้จะรู้สึกสนุกสุดเหวี่ยงแค่ไหน สักพักคุณก็อยากกลับบ้านแล้ว อยากกลับไปนอนแช่น้ำอุ่นในอ่างอาบน้ำ เปิดเพลงคลอเพื่อผ่อนคลาย ถ้าคุณเป็นคนที่ยังต้องเจอะเจอเพื่อนฝูง แต่ก็มักชอบแวบหายจากงานปาร์ตี้เพื่อกลับบ้านก่อน คงจะดีไม่น้อยถ้าคุณจะมีบ้านอยู่ในทำเลที่ยังไม่ตัดขาดจากไลฟ์สไตล์คนเมืองและอยู่ใกล้แหล่งแฮงเอาต์ ทีนี้จะปาร์ตี้ก็ได้ คิดถึงบ้านเมื่อไรก็แวบกลับสะดวก
บ้านที่ตอบโจทย์ทั้งธรรมชาติ เทคโนโลยี และไลฟ์สไตล์
ถ้าสิ่งที่เราพูดมาทั้งหมดก่อนหน้านี้เป็นสิ่งที่คุณต้องการ หรือเป็นไลฟ์สไตล์ในแบบของคุณ oka HAUS คือคอนโดมิเนียมที่ให้ความสำคัญกับแนวคิด Smart Living Transformation ที่จะเปลี่ยนนิยามการใช้ชีวิตของคุณเพื่อเติมโจทย์ไลฟ์สไตล์ สร้างสมดุลชีวิตที่ลงตัวกับ oka HAUS บ้านแนวคิดใหม่จากแสนสิริ
- oka HAUS (โอกะ เฮาส์) สุขุมวิท 36 ที่พักอาศัยใจกลางเมืองบนความสูง 47 ชั้นจากแสนสิริ ที่มาพร้อมแนวคิด Retreat and Reboundให้คุณได้ผ่อนคลาย เพื่อชาร์จพลังให้สุดแล้วพร้อมสำหรับวันต่อไป
- oka HAUS ตั้งบนพื้นที่ 5 ไร่ อยู่บนถนนสุขุมวิทที่เชื่อมต่อถนนพระราม 4 แต่กลับเป็นทำเลที่เขยิบห่างออกจากความวุ่นวายทั้งมวล ทำให้บ้านกลายเป็นสถานที่พักผ่อนอย่างแท้จริง ขณะเดียวกันก็ยังไม่ตัดขาดจากไลฟ์สไตล์คนเมือง เพราะอยู่ใกล้แหล่งแฮงเอาต์ สามารถไปถึงบีทีเอสทองหล่อได้ในเวลาเพียง 5 นาที อีกทั้งยังใกล้ทางด่วนเฉลิมมหานครและอาจณรงค์ ทำให้สามารถเดินทางไปยังทุกจุดหมายได้ในเวลาอันรวดเร็ว
- oka HAUS มี Education Playground ที่ออกแบบร่วมกับโรงพยาบาลสมิติเวช จนได้เป็นพื้นที่สีเขียวอันแสนร่มรื่นให้สมาชิกทุกคนในครอบครัว
- ประตูห้องพักระบบ Digital Door Lock ที่มีความพิเศษกว่าระบบล็อกประตูทั่วๆ ไป เพราะสามารถเลือกใช้ทั้งแอปพลิเคชัน คีย์การ์ด หรือรหัสผ่านเพื่อเข้าสู่ห้องพักของตัวเองได้ พร้อมเชื่อมโยงกับระบบ Home Automation ภายในห้องเพื่อทำให้ไฟและแอร์ทำงานโดยอัตโนมัติทันทีที่เปิดประตู อีกทั้งยังมีระบบแจ้งเตือนเมื่อมีการงัดแงะหรือพยายามเปิดเข้าห้องโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นการเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้อยู่อาศัย
- Smart Mailbox ที่ช่วยแจ้งเตือนบนแอปฯ เมื่อมีจดหมายส่งตรงมาถึงคุณ และสามารถใช้ QR Code แตะที่หน้าจอแสดงผลเพื่อเปิดตู้รับจดหมายได้ทันที เช่นเดียวกับ Smart Locker ที่ออกแบบมาสำหรับการรับ-ส่งพัสดุตลอด 24 ชั่วโมง ไม่จำเป็นต้องถามไถ่นิติบุคคลว่าของที่สั่งมาถึงหรือยัง เพราะแค่ใช้ QR Code ก็เปิดตู้รับของได้เลย
- สนใจโครงการสามารถเข้าไปชมห้องตัวอย่างได้ที่ oka HAUS Sales Gallery เริ่ม 4.1 ล้าน*ทาง www.sansiri.com/condominium/oka-haus/th/