วันนี้ (13 พฤษภาคม) เมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้การต้อนรับ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะ ในโอกาสตรวจเยี่ยมสถานที่บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 นอกโรงพยาบาล ที่ศูนย์บริการวัคซีนจามจุรีสแควร์ ณ อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้น 4 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และหน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 กรุงเทพมหานคร-หอการค้าไทย ณ ห้องโถงชั้น 5 ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ เขตปทุมวัน โดยมี ศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร คณะรัฐมนตรี ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับ
สำหรับศูนย์บริการวัคซีนจามจุรีสแควร์ ดำเนินการตามโครงการจัดตั้งจุดให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (CU COVID-19 Vaccination Program: CU PV) มีการเตรียมระบบให้วัคซีนที่ปลอดภัยและครบถ้วนในทุกขั้นตอน จนถึงการดูแลและสังเกตอาการ สามารถให้บริการฉีดวัคซีน 1,000 คนต่อวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. กลุ่มเป้าหมายผู้รับบริการเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อสูง ได้แก่ ครู อาจารย์ บุคลากรทางการศึกษา และกลุ่มผู้ให้บริการสาธารณะ เช่น พนักงาน ขสมก. ซึ่งต้องจองคิวล่วงหน้าผ่านระบบ ‘เป็ดไทยสู้ภัย QueQ’ โดยศูนย์ฯ จะพร้อมให้บริการตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นไป
จากนั้น เวลา 15.00 น. นายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมสถานที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 นอกโรงพยาบาลหน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 กรุงเทพมหานคร-หอการค้าไทย และทดสอบระบบการให้บริการ ณ ห้องโถง ชั้น 5 ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ เขตปทุมวัน ซึ่งเป็นความร่วมมือการให้บริการระหว่างกรุงเทพมหานคร สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เพื่อทดสอบระบบการให้บริการวัคซีนตามขั้นตอนต่างๆ อาทิ จุดนั่งพักคอยตรงจุดบริการก่อนลงทะเบียน จุดลงทะเบียน กรอกข้อมูลส่วนตัวเพื่อทำบัตรเข้ารับการฉีดวัคซีน จุดวัดความดันเพื่อเช็กความพร้อมของร่างกาย จุดคัดกรองประวัติ จุดฉีดวัคซีน จุดสังเกตอาการเป็นระยะเวลา 30 นาที และออกหนังสือรับรองการฉีดวัคซีน สามารถให้บริการฉีดวัคซีนวันละประมาณ 1,500 คน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. โดยกลุ่มผู้เข้ารับการบริการฉีดวัคซีนเพื่อทดสอบระบบจะเป็นกลุ่มบุคลากรด่านหน้าที่ต้องปฏิบัติงานในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค และกลุ่มอาชีพเสี่ยงที่มีโอกาสสัมผัสกับคนจำนวนมาก ซึ่งได้รับการลงทะเบียนกับสำนักอนามัย กทม. ล่วงหน้าก่อนเข้ารับบริการแล้ว
นายกรัฐมนตรีกล่าวภายหลังการตรวจเยี่ยมว่า การที่ทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมกันดำเนินการเป็นสิ่งที่น่ายินดี ซึ่งสามารถมีจุดฉีดนอกโรงพยาบาลเพิ่มมา 14 จุด และจะขยายเพิ่มให้ถึง 25 จุด อยากให้เข้าใจว่าการให้บริการวันนี้เป็นกลุ่มเป้าหมายที่แจ้งไปก่อนหน้านี้ และรัฐบาลยังให้ความสำคัญกับภาคอุตสาหกรรม ขอบคุณผู้ประกอบการที่ให้ความร่วมมือ ส่วนเรื่อง Walk in ฉีดวัคซีนจะมีการเตรียมการในเดือนมิถุนายน หากวัคซีนมาเพียงพอ ทุกคนได้ฉีดวัคซีนแน่นอน โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทำงานร่วมกับสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) โดยรับแผนแนวทางปฏิบัติจากรัฐบาล อาจจะมีการยืดหยุ่นตามพื้นที่
นายกรัฐมนตรียังระบุว่า เป็นห่วงร้านอาหารที่ขาดรายได้ ประชาชนตกงาน ซึ่งจะต้องหาทางออกร่วมกันต่อไป ส่วนเรื่องแอปพลิเคชัน ‘หมอพร้อม’ ไม่มีปัญหาอุปสรรคอะไร
นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงวัคซีน AstraZeneca ที่จะเข้ามาในเดือนมิถุนายน ไม่มีสะดุดอย่างแน่นอน และไม่มีการปิดกั้นวัคซีนยี่ห้ออื่น หากพบใครมีผลประโยชน์เรื่องวัคซีนจะต้องลงโทษ
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครร่วมมือกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โรงพยาบาลเครือข่าย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดเตรียมสถานที่ฉีดวัคซีนของภาคเอกชนเพื่อให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 นอกโรงพยาบาล พร้อมให้บริการ 14 แห่ง ได้แก่
- เซ็นทรัล ลาดพร้าว ร่วมกับโรงพยาบาลรามาธิบดี
- เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า ร่วมกับโรงพยาบาลวชิรพยาบาล
- ไอคอนสยาม ร่วมกับโรงพยาบาลศิริราช
- ทรู ดิจิทัล พาร์ค ร่วมกับโรงพยาบาลศิริราช
- สามย่านมิตรทาวน์ ร่วมกับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
- SCG บางซื่อ ร่วมกับกรมการแพทย์
- เดอะมอลล์ บางกะปิ ร่วมกับโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี
- เดอะมอลล์ บางแค ร่วมกับมหาวิทยาลัยสยาม โดยคณะแพทยศาสตร์และคณะพยาบาลศาสตร์
- ธัญญาพาร์ค ร่วมกับโรงพยาบาลเครือบางปะกอก
- เอเชียทีคฯ ร่วมกับโรงพยาบาลเครือบางปะกอก
- โรบินสัน ลาดกระบัง ร่วมกับโรงพยาบาลเครือบางปะกอก
- โลตัส มีนบุรี ร่วมกับโรงพยาบาลเครือบางปะกอก
- บิ๊กซี บางบอน ร่วมกับโรงพยาบาลเครือบางปะกอก
- PTT Station พระราม 2 ร่วมกับโรงพยาบาลเครือบางปะกอก
สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยได้เสนอสถานที่ฉีดวัคซีนเพิ่มเติมอีก 11 แห่ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการเตรียมพร้อมอุปกรณ์และบุคลากร โดยสำนักอนามัยจะลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อยเพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด และเมื่อสามารถเปิดให้บริการ หน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 กรุงเทพมหานคร-หอการค้าไทย ในพื้นที่กรุงเทพมหานครได้ครบทั้ง 25 แห่ง แต่ละแห่งจะมีศักยภาพการให้บริการฉีดวัคซีนอยู่ที่ 1,000-3,000 คนต่อวัน รวมสามารถให้บริการได้ 38,000-50,000 คนต่อวัน
นอกจากนี้ หน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 กรุงเทพมหานคร-หอการค้าไทย ทุกแห่งจะเปิดให้บริการต่อเนื่อง 7 เดือน เพื่อให้การบริการวัคซีนเป็นไปอย่างทั่วถึง รวดเร็ว และปลอดภัยสำหรับประชาชน
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์