เนปาลกำลังเผชิญวิกฤตการระบาดของโควิด-19 ระลอกสอง ขณะที่ประเทศพึ่งพาอุปกรณ์ทางการแพทย์และออกซิเจนเหลวจากอินเดีย ซึ่งกำลังเผชิญกับวิกฤตโควิด-19 ในประเทศเช่นกัน และได้หยุดการส่งออกออกซิเจนไปแล้ว ทำให้สถานการณ์ในเมืองกาฐมาณฑุยากลำบากมากขึ้น
ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขของเนปาล ณ เวลา 19.00 น. วันที่ 12 พฤษภาคม ตามเวลาประเทศไทย ระบุว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 9,238 รายในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ยอดผู้ติดเชื้อรายวันยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีผู้แยกกักตัวเองในบ้านมากกว่า 9.4 หมื่นราย ส่วนอัตราการตรวจพบเชื้อโควิด-19 ตอนนี้อยู่ที่ใกล้ 50% นั่นหมายถึงในจำนวนผู้ที่รับการตรวจสองคนจะมีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวกราว 1 คน และมีคำเตือนจากเจ้าหน้าที่ทางการว่า อาจมีผู้เสียชีวิตอีกมากในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
สำนักข่าว BBC ยังรายงานถึงชายคนหนึ่งที่พยายามพาพ่อของเขาไปรักษาในสถานพยาบาลถึงสามแห่ง ซึ่งปฏิเสธการให้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจากปัญหาออกซิเจนและเตียงขาดแคลน กว่าเขาจะหาเตียงให้พ่อได้ทุกอย่างก็สายเกินไปแล้ว
ทั้งนี้ หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพของรัฐบาลเนปาลระบุว่า หากสถานการณ์ไม่ได้รับการจัดการในขณะนี้ ก็อาจกลายเป็นหายนะได้ “ในพื้นที่หุบเขากาฐมาณฑุ เตียงผู้ป่วยหนักและเครื่องช่วยหายใจเกือบทั้งหมดเต็มแล้ว” เขากล่าว “แม้แต่ในโรงพยาบาลที่มีเตียงผู้ป่วยว่างก็ไม่สามารถรับผู้ป่วยได้เนื่องจากการขาดแคลนออกซิเจน เรายังพบว่าวัคซีนก็หมดแล้วด้วย”
สำหรับประเด็นวัคซีนนั้น เนปาลที่มีประชากรตามข้อมูลของธนาคารโลกอยู่ที่ราว 28.6 ล้านคน ได้รับการบริจาควัคซีนจากอินเดีย รวมถึงจองวัคซีนจากโครงการ COVAX และจากประเทศจีน ซึ่งเจ้าหน้าที่ทางการระบุว่ามีประชาชนกว่า 2.1 ล้านคนได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อยหนึ่งโดส ส่วนที่ได้รับวัคซีนครบสองโดสแล้วอยู่ที่ราว 4 แสนคน การที่อินเดียระงับการส่งออกวัคซีน ทำให้เนปาลต้องหันไปหาจีนหรือรัสเซียเพื่อรองรับความต้องการที่มีอยู่
“เนปาลยังไม่สามารถจัดหาวัคซีนให้ได้ถึง 20% ของจำนวนผู้ที่จำเป็นต้องได้รับวัคซีน ดังนั้นเนปาลควรได้รับการจัดลำดับความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ” ซารา เบโซโลว ไนอานติ ผู้ประสานงานประจำถิ่นของสหประชาชาติในเนปาลบอกกับ BBC “ฉันขอวิงวอนให้ประเทศที่สามารถสำรองวัคซีน ให้ส่งวัคซีนไปยังเนปาลได้ทันที”
BBC ยังระบุว่า เนปาลเร่งรีบในการกลับสู่ภาวะปกติเพื่อที่จะฟื้นตัวจากผลกระทบทางเศรษฐกิจช่วงการล็อกดาวน์ หน้ากากอนามัย การดูแลสุขอนามัย รวมถึงมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมถูกมองข้าม ในขณะเดียวกัน เนปาลก็ยังมีปัญหาทางการเมืองที่ ขัทคะ ปราสาท ศรรมะ โอลี นายกรัฐมนตรีเนปาลประกาศยุบสภาไปเมื่อปลายปีที่แล้ว และเรียกร้องให้มีการเลือกตั้ง ทว่าศาลสูงกลับมีคำสั่งในเวลาต่อมาว่าการยุบสภาดังกล่าวขัดรัฐธรรมนูญ และสั่งคืนสภาพสภาอีกครั้ง โอลีต้องเผชิญกับเสียงวิจารณ์กับการรับมือโควิด-19 จากฝ่ายค้านและภาคประชาสังคม มีการประท้วงต่อต้านและสนับสนุนเขาในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ล่าสุด เขาถูกลงมติไม่ไว้วางใจในสภา และยังไม่ชัดเจนว่าใครจะเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลใหม่ เนื่องจากไม่มีพรรคการเมืองใดครองเสียงข้างมากอย่างชัดเจน ซึ่ง นพ.ราจัน ปานเดย์ หัวหน้าแพทย์ที่ปรึกษาของโรงพยาบาลเบรีในเมืองเนปาลกันจ์ระบุว่า ความขัดแย้งทางการเมืองเป็นสาเหตุที่ทำให้สถานการณ์ย่ำแย่ลง
นอกจากนี้ ยังมีแรงงานที่อพยพไปทำงานในอินเดียเดินทางกลับเข้ามายังเนปาลวันละหลายร้อยคน ท่ามกลางความหวาดกลัวว่าบางคนอาจนำเชื้อโควิด-19 มาด้วย หลายคนเดินทางเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย และกลับไปที่หมู่บ้านของตนด้วยความหวาดกลัวที่จะต้องถูกกักตัว และมีรายงานว่าผู้เดินทางกลับมาบางคนมีอาการป่วย ทว่าปานเดย์ชี้ว่า การจัดการชุมนุมใหญ่ทั้งจากฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านเมื่อสองเดือนก่อน ตลอดจนการเฉลิมฉลองเทศกาลทางศาสนา รวมถึงการจัดงานแต่งงาน เหล่านี้ล้วนประกอบกันเป็นสาเหตุของการระบาดระลอกสองในเนปาลเช่นกัน
และเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่มีการรายงานในสื่อว่า โอลีถูกลงมติไม่ไว้วางใจ มีข้อเขียนของเขาเองเผยแพร่บนเว็บไซต์ของ The Guardian สื่ออีกสำนักของอังกฤษ ระบุใจความสำคัญตอนหนึ่งโดยอธิบายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเนปาล และระบุว่าแม้รัฐบาลของเขาได้พยายามอย่างเต็มที่ในการรับมือกับโควิด-19 ทว่า ข้อจำกัดด้านทรัพยากรและโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้การแพร่ระบาดกลายเป็นภาระอันใหญ่หลวง เขาจึงร้องขอความช่วยเหลือจากประชาคมระหว่างประเทศ และอีกส่วนหนึ่งยังกล่าวถึงความหวังที่มีต่อสหราชอาณาจักรในฐานะประธานกลุ่ม G7 ว่าจะใช้การจูงใจเพื่อทำให้มั่นใจว่ากลุ่ม G7 จะเร่งการนำวัคซีนมาใช้ทั่วโลก โดยเฉพาะกับประเทศที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนที่สุด
“ผมจึงขอวิงวอนต่อประชาคมระหว่างประเทศให้ช่วยเหลือเราในเรื่องของวัคซีน, เครื่องมือวินิจฉัย, ชุดออกซิเจน, ยา และอุปกรณ์สำหรับการดูแลในขั้นวิกฤต เพื่อสนับสนุนความพยายามของเราในการช่วยชีวิต เป้าหมายเร่งด่วนของเราคือหยุดยั้งการเสียชีวิตที่ป้องกันได้ ซึ่งกำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้” โอลีระบุ
ภาพ: Prabin Ranabhat / SOPA Images / LightRocket via Getty Images
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: