วานนี้ (11 พฤษภาคม) สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ทรงเผยว่า การบำบัดเพื่อเปลี่ยนรสนิยมทางเพศ (Conversion Therapy) จะถูกแบนและเป็นสิ่งผิดกฎหมายในสหราชอาณาจักร เนื่องจากวิธีการดังกล่าวเป็นอันตรายและขัดต่อหลักปฏิบัติของระบบบริการสุขภาพแห่งชาติ (NHS) และสมาคมจิตแพทย์สากล (WPA) ขณะเสด็จฯ เข้าร่วมการเปิดประชุมรัฐสภาในกรุงลอนดอน
“มาตรการต่างๆ จะช่วยแก้ไขปัญหาความไม่เสมอภาคทางเชื้อชาติและชาติพันธุ์ รวมถึงการบำบัดเพื่อเปลี่ยนรสนิยมทางเพศ โดยรัฐบาลจะช่วยเสริมสร้างประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญ ตลอดจนปกป้องเสรีภาพในการพูด ฟื้นฟูดุลอำนาจระหว่างฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายตุลาการ”
ทางด้าน ลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีสตรีและความเท่าเทียมของสหราชอาณาจักร ยืนยันว่า กฎหมายดังกล่าวจะเริ่มบังคับใช้ หลังจากที่ฟังความคิดเห็นของสาธารณชน
“ในฐานะผู้นำด้านสิทธิความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ) ในประชาคมโลก รัฐบาลชุดนี้มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะประกาศแบนการบำบัดเพื่อเปลี่ยนรสนิยมทางเพศมาโดยตลอด เราต้องการสร้างหลักประกันว่าพลเมืองในประเทศนี้จะได้รับการปกป้องคุ้มครอง จะไม่มีใครต้องถูกบังคับให้ต้องเข้ารับการบำบัดเพื่อเปลี่ยนรสนิยมทางเพศอีกต่อไป”
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ควีนเอลิซาเบธที่ 2 สวรรคต
- จะเกิดอะไรขึ้นต่อ หลังควีนเอลิซาเบธที่ 2 สวรรคต
- ผลัดแผ่นดิน เจ้าชายชาร์ลส์ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์แห่งสหราชอาณาจักรและเครือจักรภพพระองค์ใหม่
- ย้อนชมภาพประวัติศาสตร์ ช่วงพิธีราชาภิเษกและพิธีฉลองสิริราชสมบัติของควีนเอลิซาเบธที่ 2
- เล่าด้วยภาพ 70 ปี เหตุการณ์สำคัญบนราชบัลลังก์ของ ‘ควีนเอลิซาเบธที่ 2’
ภาพ: Eddie Mulholland – WPA Pool / Getty Images
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
- https://www.gaytimes.co.uk/life/queen-confirms-plans-to-finally-ban-conversion-therapy-in-the-uk/
- https://www.yahoo.com/entertainment/conversion-therapy-still-not-banned-120300195.html
- https://psychology.ucdavis.edu/rainbow/html/facts_mental_health.html
- Conversion Therapy เป็นหนึ่งในความพยายามที่ต้องการจะเปลี่ยนแปลงอัตลักษณ์ทางเพศ รวมถึงรสนิยมทางเพศ บ่อยครั้งมักเกี่ยวข้องกับการบำบัดด้วยวิธีการทางเทคนิคอย่าง การรักษาด้วยยา ช็อตด้วยกระแสไฟฟ้า หรือการสวดมนต์ภาวนา ซึ่งมักผูกโยงกับความเชื่อล้าสมัยที่ว่า ความหลากหลายทางเพศเป็นโรคร้ายและต้องได้รับการรักษา โดยในปัจจุบันองค์กรอนามัยโลกระบุว่า ความหลากหลายดังกล่าว ไม่ถือเป็นโรคหรือความผิดปกติทางจิตแต่อย่างใด