บมจ.แอดเทค ฮับ หรือ ADD ประกาศความพร้อมเข้าจดทะเบียนและซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai โดย ADD เสนอขายหุ้น IPO จำนวน 40 ล้านหุ้น กำหนดราคาเสนอขายที่ 11 บาทต่อหุ้น เปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 12-14 พฤษภาคม และจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai วันแรกคือวันที่ 20 พฤษภาคม 2564
กิตติพันธ์ ภูษณวรรณ กรรมการผู้จัดการอาวุโส บล.โกลเบล็ก จำกัด เปิดเผยในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (Lead Underwriter) ว่า ราคาเสนอขาย IPO ที่ราคา 11 บาทต่อหุ้นคิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E Ratio) ที่ 24.44 เท่า โดยคำนวณจากผลประกอบการปี 2563 ประกอบกับหากพิจารณาจากพื้นฐานธุรกิจ รวมถึงศักยภาพความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (Software Development) ที่มีประสบการณ์การทำงานร่วมกับฝ่ายพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศในธุรกิจโทรคมนาคมมานาน กว่า 20 ปี สามารถการันตีถึงโอกาสการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคตได้อย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นระดับราคาที่เสนอขายดังกล่าวจึงเป็นราคาที่เหมาะสม
ทั้งนี้ ADD จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปจองซื้อหุ้นระหว่างวันที่ 12-14 พฤษภาคมนี้ และจะเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ mai ในวันที่ 20 พฤษภาคม 2564 ในหมวดบริการ ภายใต้ชื่อย่อ ADD โดยบริษัทเตรียมเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 40 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็น 25% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน และมีนโยบายการจ่ายปันผลไม่น้อยกว่า 40%
ชวัล บุญประกอบศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ADD กล่าวว่า วัตถุประสงค์การระดมทุนครั้งนี้เพื่อใช้ขยายงานในส่วนของบุคลากรด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมถึงจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการต่อยอดธุรกิจการพัฒนาระบบด้านการสนับสนุนดิจิทัลคอนเทนต์และดิจิทัลโซลูชัน
โดยบริษัทเป็นผู้ให้บริการระบบสนับสนุนการให้บริการดิจิทัลคอนเทนต์และพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศแก่ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งแบ่งการให้บริการออกเป็น 1. ให้บริการสนับสนุนดิจิทัลคอนเทนต์ (Digital Content Support) ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนรายได้ถึง 83% ของรายได้รวม 2. ให้บริการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (Digital Solution) คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 17% แต่การให้บริการในส่วนนี้จะมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในทุกๆ ปี และ 3. ให้บริการสื่อและโฆษณาบนแพลตฟอร์มออนไลน์ (Online Advertising) สัดส่วนรายได้น้อยกว่า 2% ของรายได้รวม
อีกทั้งยังมีการให้บริการพัฒนาระบบชำระเงินค่าบริการหรือสินค้าผ่านผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Carrier Billing) เข้ามาเป็นหนึ่งในช่องทางการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้แก่ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ เพื่อให้ผู้ใช้โทรศัพท์สามารถชำระเงินค่าบริการผ่านระบบ Carrier Billing โดยไม่ต้องใช้เงินสดหรือบัตรเครดิต ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้โทรศัพท์ ทั้งนี้ในไตรมาส 1 ปี 2564 ระบบ Carrier Billing ได้รองรับการซื้อเหรียญดิจิทัลในแอปพลิเคชัน ซึ่งเหรียญดิจิทัลดังกล่าวสามารถนำไปซื้อสินค้าดิจิทัลในแอปพลิเคชันได้หลากหลายประเภท อาทิ เพลงรอสาย ภาพพื้นหลัง สติกเกอร์ สัญลักษณ์แสดงอารมณ์ (Emoji) เป็นต้น
ผลการดำเนินงานปี 2561-2563 กลุ่มบริษัทมีรายได้รวมจำนวน 289.48 ล้านบาท 302.04 ล้านบาท และ 345.53 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิจำนวน 29.29 ล้านบาท 39.50 ล้านบาท และ 72.37 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่อัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น (ROE) ของบริษัทอยู่ที่ 55.78% ในปี 2561 และเพิ่มเป็น 81.89% ในปี 2563
ผู้ถือหุ้นใหญ่ภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO ประกอบด้วย กลุ่มตระกูลบุญประกอบศักดิ์ ถือหุ้นในสัดส่วน 55.84% เจนวิทย์ จิวะกุลชัยนันท์ ถือหุ้นในสัดส่วน 3.71% และ สมโภช ทนุตันติวงศ์ ถือหุ้นในสัดส่วน 3.66%
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า