สภาเสี้ยววงเดือนแดงปาเลสไตน์เปิดเผยว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 90 คนจากเหตุการณ์ที่ชาวปาเลสไตน์และตำรวจอิสราเอลปะทะกันในนครเยรูซาเลมเป็นคืนที่ 2 เมื่อวันเสาร์ (8 พฤษภาคม)
รายงานระบุว่า ผู้บาดเจ็บทั้งหมดเป็นชาวปาเลสไตน์ และส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนยางหรือระเบิดมือ โดยผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 16 คนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล นอกจากนี้ผู้บาดเจ็บ 6 คนจากทั้งหมดมีอายุต่ำกว่า 18 ปี ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นเด็กอายุเพียง 1 ขวบ
เหตุการณ์ปะทะกันดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นคืนที่ 2 แล้ว หลังจากที่เมื่อวันศุกร์มีผู้ได้รับบาดเจ็บมากถึง 205 คนที่มัสยิดอัลอักซอของกรุงเยรูซาเลม เมื่อตำรวจอิสราเอลในชุดปราบจลาจลปะทะกับชาวปาเลสไตน์หลังการสวดมนต์เย็น
สภาเสี้ยววงเดือนแดงเปิดเผยว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บ 88 คนในวันศุกร์ได้รับการรักษาที่โรงพยาบาล โดยส่วนใหญ่ได้รับบาดแผลจากกระสุนเคลือบยาง
ก่อนหน้าที่จะเกิดการปะทะกันนั้น ความตึงเครียดได้เพิ่มสูงขึ้นในเยรูซาเลมตะวันออก เนื่องจากชาวปาเลสไตน์ไม่พอใจที่อาจมีการขับไล่ครอบครัวชาวปาเลสไตน์หลายสิบครอบครัวที่อาศัยอยู่ในพื้นที่
การปะทะกันเกิดขึ้นในหลายจุดของเยรูซาเลม ซึ่งรวมถึงประตูดามัสกัสและย่านชีค จาร์ราห์ ซึ่งเป็นย่านที่ชาวปาเลสไตน์บางครอบครัวถูกขับไล่
ตำรวจอิสราเอลเปิดเผยว่า พวกเขาเริ่มสลายผู้ชุมนุมที่ประตูดามัสกัส หลังจากผู้ประท้วงขว้างปาก้อนหิน ดอกไม้ไฟ และสิ่งของอื่นๆ เข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่างไรก็ดี ไม่มีรายงานชาวอิสราเอลได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ปะทะที่เกิดขึ้น
วิดีโอแสดงให้เห็นภาพการปาระเบิดมือเกิดขึ้นทั่วบริเวณมัสยิดซึ่งรู้จักกันในชื่อ Noble Sanctuary สำหรับชาวมุสลิม และ Temple Mount สำหรับชาวยิว โดยระเบิดบางส่วนถูกปาเข้าไปภายในอาคารมัสยิด ส่งผลให้ผู้ที่มาสวดมนต์ต้องพากันหนีระเบิดกันอย่างกระจัดกระจาย
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตำรวจเปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่อย่างน้อย 6 คนได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกัน หลังจากผู้ที่มาสวดมนต์เริ่มขว้างปาก้อนหินและสิ่งของอื่นๆ ด้านชาวปาเลสไตน์กล่าวว่า เหตุการณ์ไม่สงบเกิดขึ้นหลังจากบางคนในกลุ่มพวกตนถูกขัดขวางไม่ให้เข้าไปในบริเวณมัสยิดและพยายามเคลื่อนย้ายเครื่องกีดขวางของตำรวจ
หลายคนโบกธงชาติปาเลสไตน์ รวมทั้งธงสีเขียวของกลุ่มฮามาส และพากันร้องเพลงเพื่อสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ในย่านชีค จาร์ราห์ในเยรูซาเลม ซึ่งครอบครัวชาวปาเลสไตน์หลายครอบครัวกำลังต่อสู้กับการถูกขับไล่ออกจากบ้าน
เหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นในนครเยรูซาเลมสร้างความกังวลให้ประชาคมโลก โดยเน็ด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า “สหรัฐฯ มีความกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับการเผชิญหน้าที่กำลังดำเนินอยู่” ในเยรูซาเลม
“เราเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่อิสราเอลและปาเลสไตน์ดำเนินการอย่างเด็ดขาดเพื่อลดความตึงเครียดและยุติความรุนแรง” ไพรซ์กล่าวในแถลงการณ์ “เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่ทุกฝ่ายจะต้องใช้ความยับยั้งชั่งใจ ละเว้นจากการกระทำและคำพูดที่ยั่วยุ”
ด้านสำนักงานผู้ประสานงานพิเศษของสหประชาชาติเพื่อตะวันออกกลาง กล่าวในแถลงการณ์ว่า คณะผู้แทนพิเศษจากรัสเซีย สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และสหประชาชาติ ซึ่งมีส่วนร่วมในการไกล่เกลี่ยสันติภาพระหว่างชาวปาเลสไตน์และอิสราเอลกำลัง “ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด”
“คณะผู้แทนพิเศษรับทราบด้วยความกังวลอย่างยิ่งต่อการขับไล่ครอบครัวชาวปาเลสไตน์ออกจากบ้านที่พวกเขาอาศัยอยู่มาหลายชั่วอายุคนในย่านชีค จาร์ราห์และซิลวานในเยรูซาเลมตะวันออก และขอคัดค้านการกระทำฝ่ายเดียวซึ่งมีแต่จะทำให้สถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้น” แถลงการณ์ระบุ
“เราเรียกร้องให้ทางการอิสราเอลใช้ความยับยั้งชั่งใจและหลีกเลี่ยงมาตรการที่จะทำให้สถานการณ์บานปลายในช่วงวันศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิม” แถลงการณ์ระบุ
ด้านคณะกรรมาธิการยุโรปประณามเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้น และแสดงความกังวลเกี่ยวกับการขับไล่ครอบครัวชาวปาเลสไตน์
“การกระทำดังกล่าวผิดกฎหมายภายใต้กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และมีแต่จะกระตุ้นให้เกิดความตึงเครียด” ปีเตอร์ สตาโน โฆษกด้านนโยบายต่างประเทศและความมั่นคงของคณะกรรมาธิการยุโรปกล่าว
ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศของอียิปต์ออกแถลงการณ์ประณาม “การโจมตีมัสยิดของทางการอิสราเอล” และเรียกร้องให้อิสราเอลปกป้องพลเรือนชาวปาเลสไตน์และสิทธิในการประกอบพิธีทางศาสนาของตนอย่างเสรี
เช่นเดียวกับกระทรวงต่างประเทศของจอร์แดนที่ระบุว่า “การบุกโจมตีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ถือเป็นการละเมิดอย่างร้ายแรง เป็นการกระทำที่ป่าเถื่อน และควรถูกประณามอย่างรุนแรง”
ขณะที่โฆษกของประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาส ของปาเลสไตน์ กล่าวว่าประชาคมโลกจำเป็นต้องให้ความคุ้มครองชาวปาเลสไตน์ พร้อมกับเรียกร้องให้ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน กดดันให้อิสราเอลหยุดการโจมตีเพื่อให้เรื่องต่างๆ ไม่ไปถึงขั้นที่ไม่สามารถควบคุมได้
ภาพ: Mustafa Hassona / Anadolu Agency via Getty Images
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: