โธมัส ทูเคิล นายใหญ่ทีม ‘สิงโตน้ำเงินคราม’ เชลซี มั่นใจในทีมว่าพร้อมจะดวลกับ ‘เรือใบสีฟ้า’ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และจะคว้าถ้วยยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกมาให้ได้ หลังลูกทีมสยบ ‘ราชันชุดขาว’ เรอัล มาดริด แชมป์ 13 สมัยได้ 2-0 ในเกมรอบรองชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นัดที่ 2
เชลซีทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจในการกลับมาพบกับ เรอัล มาดริด อดีตแชมป์ 13 สมัยอีกครั้งเมื่อคืนที่ผ่านมา (5 พฤษภาคม) ตามเวลาท้องถิ่นในอังกฤษ โดยหลังจากที่นัดแรกบุกไปยันเสมอมาได้ 1-1 นัดนี้พวกเขากลับมาคว้าชัยชนะได้อีก 2-0 ที่สแตมฟอร์ดบริดจ์ จากการทำประตูของ ติโม แวร์เนอร์ ในช่วงครึ่งเวลาแรก และ เมสัน เมาท์ ที่ยิงปิดท้ายได้ก่อนจะหมดเวลาไม่นาน ทำให้รวมผล 2 นัด เชลซีชนะไป 3-1
หลังคว้าชัยชนะ ทูเคิลกล่าวถึงผลงานของทีมอย่างมีความสุขว่า “ชัยชนะครั้งนี้ยิ่งใหญ่มาก และผมก็ดีใจมากๆ ที่ได้เห็นทีมสปิริตแบบนี้ ต้องยกเครดิตให้แก่ทีมชุดนี้อย่างสูง
“ผมเคยบอกเสมอว่าสำหรับผมแล้ว บาเยิร์น มิวนิก และแมนเชสเตอร์ ซิตี้คือทีมที่เป็นตัววัด และตอนนี้เราก็อยากจะขยับเข้าใกล้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ให้มากขึ้นอีกในรอบรองชนะเลิศ ซึ่งเราทำได้แล้ว และเราก็ต้องการแค่ทำให้ได้แบบนี้อีกครั้งเท่านั้น มันทำให้เราได้ความเชื่อเพิ่มขึ้นทุกเกม เพราะนี่คือฟุตบอลระดับสูงสุดที่เราจะเจอ
“เราเจอความท้าทายครั้งใหญ่ในพรีเมียร์ลีก และเราก็ทำผลงานได้ดีมาก ดังนั้นเราจะลงเล่นนัดชิงที่อิสตันบูลด้วยความมั่นใจและเต็มไปด้วยพลังบวก หวังว่าเราจะไม่มีคนเจ็บเพิ่ม เราจะไปอิสตันบูลเพื่อคว้าชัยชนะ ไม่ใช่แค่ไปเข้าร่วมเฉยๆ”
สำหรับการเข้าชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกครั้งนี้เป็นการเข้าชิงชนะเลิศครั้งที่ 3 ในประวัติศาสตร์ของสโมสรเชลซีต่อจากปี 2008 ที่แพ้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และอีกครั้งในปี 2012 ที่สามารถคว้าชัยชนะเหนือบาเยิร์น มิวนิกได้ในสนามของตัวเอง ส่วนครั้งนี้นัดชิงชนะเลิศจะมีขึ้นในวันที่ 29 พฤษภาคมที่สนามอตาเติร์กสเตเดียมในกรุงอิสตันบูล ซึ่งเคยจัดนัดชิงชนะเลิศในปี 2005 ซึ่งลิเวอร์พูลล้มเอซี มิลานได้แบบปาฏิหาริย์ในครั้งนั้น
เชลซียังผ่านเข้าชิงชนะเลิศเอฟเอคัพ ที่จะพบกับเลสเตอร์ ซิตี้ในวันที่ 15 พฤษภาคม ขณะเดียวกัน ทีมหญิงของเชลซีก็ได้ผ่านเข้าชิงชนะเลิศในรายการยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกด้วยเช่นกัน
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
อ้างอิง: