ภาพถ่ายโดยทหารสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง ( KNU) บันทึกภาพเครื่องบินเมียนมายิงจรวดใส่เหมืองทองของ KNU เมื่อวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา ทำให้มีชาวบ้านเสียชีวิต 6 คน ขณะที่การทิ้งระเบิดครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นวันที่ 31 มีนาคม จากนั้นเมียนมาได้ประกาศหยุดยิง 1 เดือนผ่านทีวีและวิทยุทางการ
วันนี้ (1 เมษายน) พ.อ. เนอดา เมียะ ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์แห่งชาติกะเหรี่ยง (KNDO) ซึ่งเป็นกองกำลังติดอาวุธหนึ่งในสองของ KNU กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอนและจังหวัดตาก ว่าการโจมตีที่มั่นของ KNU ในพื้นที่กองพลที่ 5 โดยทหารเมียนมานั้น ฝ่ายทหารกะเหรี่ยงไม่ได้รับอันตราย และทุกคนต่อสู้เพื่อเอกราช เพื่อเสรีภาพของกะเหรี่ยง รวมทั้งอุดมการณ์ที่มีมานานแล้ว ถ้าหากฝ่ายเมียนมาไม่หยุดโจมตีฝ่ายกะเหรี่ยง จะทำให้ KNU ของกองพลอื่นๆ ต้องตอบโต้ฝ่ายทหารเมียนมาอย่างแน่นอน
ส่วนการที่รัฐบาลเมียนมาประกาศหยุดปฏิบัติการทางทหาร 1 เดือนกับชนกลุ่มน้อยทุกกลุ่ม และเว้นแต่กลุ่มที่ไปโจมตีทหารเมียนมาเท่านั้น ที่ฝ่ายทหารเมียนมาจะดำเนินตอบโต้ แต่การหยุดยิง 1 เดือนนั้น เชื่อว่าทหารเมียนมาไม่มีความจริงใจมากกว่า การหยุดยิงน่าจะเป็นการปรับกำลัง และหาทางส่งเสบียงอาหารให้ทหาร
รายงานข่าวล่าสุดแจ้งว่า กองพลที่ 5 ของ KNU ยังคงไม่ยอมเปิดทางให้ทหารเมียนมาที่มีความพยายามจะไปส่งเสบียงอาหารให้ทหารตามฐานที่มั่นริมฝั่งสาละวิน ซึ่งต้องดูว่าการประกาศหยุดยิงกับฝ่ายชนกลุ่มน้อยนั้น ทางฝ่าย KNU จะยินยอมหรือไม่