เกิดอะไรขึ้น:
บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) เปิดเผยว่าแนวโน้มอุตสาหกรรมในปี 2564 จะฟื้นตัวดีขึ้นจากปี 2563 เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลายลงหลังจากมีการฉีดวัคซีนในหลายประเทศ รวมถึงการผ่อนคลายมาตรการคุมเข้ม ทำให้กลุ่มลูกค้าหลายอุตสาหกรรมเริ่มกลับมาส่งคำสั่งซื้อมากขึ้น
IVL ได้ตั้งเป้ายอดขายปี 2564 เติบโต 12%YoY โดยธุรกิจไฟเบอร์ในปี 2564 จะขยายตัวมากกว่า 20%YoY เนื่องจากผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องกับไลฟ์สไตล์มีการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง รวมถึงการซื้อกิจการในอินเดียที่ผ่านมาจะทำให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น ธุรกิจ Combined PET ในปี 2564 คาดว่าจะเติบโตไม่น้อยกว่า 7-8%YoY จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น ซึ่งส่งผลบวกต่อส่วนต่างราคาของผลิตภัณฑ์ PET รวมถึงการขาดแคลนผลิตภัณฑ์ Combined PET จะทำให้ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์วัตถุดิบพาราไซลีน (PX) กรดเทเรฟทาลิกบริสุทธิ์ (PTA) และโมโนเอทิลีนไกลคอล (MEG) ทรงตัวอยู่ในระดับสูง ขณะที่ธุรกิจ Integrated Oxides and Derivatives (IOD) คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นตลอดทั้งปี 2564 จากราคาน้ำมันดิบ อุปสงค์เบนซิน และอุปสงค์ MEG ที่เพิ่มขึ้น
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น IVL ปรับตัวขึ้น 12.66%MoM สู่ระดับ 44.50 บาท เทียบกับ SET Index ที่ปรับตัวขึ้น 6.04%MoM สู่ระดับ 1,587.21 จุด (ข้อมูลวันที่ 31 มีนาคม 2564)
มุมมองระยะสั้น:
SCBS คาดแนวโน้มกำไร 1Q64 ของ IVL จะเพิ่มขึ้นทั้ง QoQ และ YoY โดยได้รับการสนับสนุนจากกำไรสต๊อกซึ่งมีสาเหตุมาจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ส่งผลให้มูลค่าสินค้าคงคลัง (หลักๆ คือ PX และ MEG) ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่จะปรับตัวขึ้น QoQ โดยเฉพาะ Integrated PET ในยุโรป รวมถึงผลการดำเนินงานธุรกิจไฟเบอร์จะฟื้นตัวต่อเนื่องตามความต้องการไฟเบอร์ที่ปรับตัวขึ้นสู่ระดับก่อนโควิด-19 ระบาด และยังได้ประโยชน์จากโครงการบริหารต้นทุนของบริษัท (โครงการ Project Olympus)
มุมมองระยะยาว:
SCBS คาดว่าแนวโน้มความต้องการบรรจุภัณฑ์ PET จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปี 2564 โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน และการแข่งขันโอลิมปิกในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2564 แม้ว่าชาวต่างชาติจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมชมการแข่งขัน เพื่อหลีกเลี่ยงการรวมตัวกันของกลุ่มคนจำนวนมาก จึงทำให้ SCBS คาดว่าปริมาณการผลิตของ IVL ในปี 2564 จะเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ Core EBITDA/t ยังมีทิศทางที่ดีขึ้นจากการผลิต IOD ที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ นอกจากนี้ IVL ยังมีแผนลดต้นทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดต้นทุนให้ได้ตามเป้าที่ 610 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2566 โดยในปี 2564 จะลดต้นทุนลง 195 ล้านดอลลาร์
ด้วยปัจจัยเหล่านี้ทำให้ SCBS คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2564 ของ IVL ที่ 1.21 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 400%YoY จาก 2.4 พันล้านบาทในปี 2563 สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามคือ ความต้องการผลิตภัณฑ์ของ IVL ที่มีโอกาสปรับตัวลง การปรับปรุงประสิทธิภาพของสินทรัพย์ใหม่ที่อาจต่ำกว่าคาด และการเปลี่ยนแปลงกฎหมายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์พลาสติก
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล