รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศชุดมาตรการเพื่อรับมือกระแสการก่อความรุนแรงจากความเกลียดชังชาวเอเชียที่เพิ่มขึ้น ซึ่งรวมถึงกรณีเกิดเหตุกราดยิงร้านสปาในแอตแลนตาที่มีหญิงเอเชียเสียชีวิต 6 คน เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
ภายใต้ชุดมาตรการดังกล่าว ประกอบด้วยการอนุมัติใช้งบประมาณ 49.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากกองทุนเยียวยาโควิด-19 เพื่อช่วยเหลือชาวเอเชียและชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียที่ตกเป็นเหยื่อความรุนแรง และจัดตั้งคณะทำงานเพื่อต่อต้านแนวคิดเกลียดชังเอเชีย
แถลงการณ์จากทำเนียบขาวยังระบุว่ากระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ กำลังวางแผนเพิ่มการบังคับใช้กฎหมายต่อการก่ออาชญากรรมที่พุ่งเป้าไปที่ชาวเอเชียและชาวเอเชีย-อเมริกัน และเฝ้าระวังกรณีการเหยียดเชื้อชาติที่เพิ่มมากขึ้น
ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน เตรียมแต่งตั้งผู้อำนวยการถาวร เพื่อเป็นผู้นำในการประสานนโยบายของรัฐบาลกลางที่มีต่อชุมชนชาวเอเชีย-อเมริกัน ชนพื้นเมืองฮาวาย และชุมชนในหมู่เกาะแปซิฟิก ซึ่งเป็นแนวนโยบายที่ริเริ่มตั้งแต่ในยุคอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน
ขณะที่ไบเดนยืนยันว่าการก่ออาชญากรรมต่อชาวเอเชียนั้นเป็นสิ่งที่ผิดและต้องหยุด
“เราไม่สามารถนิ่งเฉยท่ามกลางการก่อความรุนแรงต่อชาวเอเชีย-อเมริกันที่เพิ่มขึ้น การโจมตีเหล่านี้เป็นสิ่งผิด ไม่ใช่อเมริกัน และต้องหยุด” ไบเดนระบุในข้อความทาง Twitter
ทางด้านกลุ่มเคลื่อนไหวสนับสนุนชาวเอเชีย-อเมริกัน และ ส.ส. สหรัฐฯ ต่างแสดงความยกย่องในความเป็นผู้นำของไบเดนที่กล้าตัดสินใจคุ้มครองความปลอดภัยและความเป็นอยู่ของชาวเอเชียในสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นท่าทีที่ขัดแย้งและสวนทางกับแนวนโยบายของรัฐบาลอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
ภาพ: Drew Angerer / Getty Images
อ้างอิง: