สถานีโทรทัศน์ CNBC ของสหรัฐฯ รายงานอ้างอิงจดหมายที่บริษัท Berkshire Hathaway ของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ คุณปู่มหาเศรษฐีนักลงทุนเขียนถึงบรรดาผู้ถือหุ้นเมื่อไม่นานมานี้ โดยนอกจากจะแจกแจงรายละเอียดของผลการดำเนินการที่ผ่านมาและแนวโน้มทิศทางนโยบายการลงทุนต่อไปในอนาคตของบริษัท จดหมายดังกล่าวยังเปิดเผยรายละเอียดส่วนหนึ่งของสัดส่วนของพอร์ตการลงทุนของบริษัทในช่วงปี 2020 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้รายงานระบุว่า Berkshire Hathaway ถือหุ้นบริษัท BYD ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่รถยนต์สัญชาติจีนซึ่งจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกงที่ 8.2% ถือเป็นหุ้นที่ Berkshire Hathaway ครอบครองมากที่สุดเป็นอันดับที่ 8 ของหุ้นทั้งหมดที่บริษัทเข้าไปลงทุน ขณะที่ General Motors ค่ายผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของสหรัฐฯ ทาง Berkshire Hathaway ถือครองอยู่ที่ 3.7% คิดเป็นสัดส่วนอยู่ในลำดับที่ 15
โดย Berkshire Hathaway ตัดสินใจเข้าลงทุนใน BYD เมื่อปี 2008 ก่อนที่ค่ายรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนรายนี้จะไต่เต้าขยายตัวจนกลายเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งปีที่ผ่านมา BYD สามารถผลิตและขายรถยนต์ไฟฟ้าได้มากกว่า 130,000 คัน แถมมีอัตราการเติบโตมากกว่า 300% ขณะที่ GM แม้จะไหวตัวเร่งประกาศกลยุทธ์มุ่งผลิตรถยนต์ไฟฟ้านับต่อจากนี้ แต่ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาบริษัทก็มีการเติบโตอยู่ที่เพียง 65% เท่านั้น
แม้ความเคลื่อนไหวข้างต้นจะตอกย้ำสถานะ The Oracle of Omaha หรือผู้พยากรณ์แห่งโอมาฮาที่กลายมาเป็นเข็มทิศชี้นำการลงทุนของโลก กระนั้น แนวทางการลงทุนดังกล่าวกลับสวนทางกับท่าทีของบัฟเฟตต์ ที่เพิ่งจะออกมาแสดงความเห็นสนับสนุนให้นักลงทุนเชื่อมั่นในการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และหันมาลงทุนในเศรษฐกิจสหรัฐฯ
นอกจากนี้ ในปีนี้จดหมายที่คุณปู่บัฟเฟตต์เขียนถึงผู้ถือหุ้นของบริษัทในทุกๆ ปี ยังได้ออกมายอมรับความผิดพลาดด้านการลงทุนที่ทำให้เกิดการสูญเสียถึง 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้ผลกำไรรายไตรมาสของบริษัท Berkshire Hathaway จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องก็ตาม ซึ่งความผิดพลาดนี้แทบทั้งหมดเป็นการลงทุนในบริษัท Precision Castparts ที่เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนสำหรับบริษัทด้านการบินและอวกาศและการป้องกันประเทศ โดยบริษัทแห่งนี้ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตการระบาดของไวรัสโควิด-19
ขณะเดียวกันบัฟเฟตต์ยังใช้โอกาสนี้เผยแนวโน้มทิศทางการลงทุนในอนาคตของ Berkshire Hathaway ซึ่งนอกจากจะเดินหน้าซื้อคืนหุ้นของบริษัทแล้ว บัฟเฟตต์ยังเผยว่าปีนี้เป็นปีที่ควรจะอยู่ให้ห่างจากตลาดพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้ด้วย
โอกาสของเศรษฐกิจโลกอยู่ตรงไหน ไทยตกขบวนการฟื้นตัวหรือไม่? บิตคอยน์คือ สินทรัพย์ทางเลือก หรือฟองสบู่ที่รอวันแตก? เราควรปรับพอร์ตอย่างไรเพื่อเติบโตท่ามกลางความตกต่ำ
ร่วมกันค้นหาคำตอบใน THE STANDARD WEALTH FORUM: Catch the Next Curve
สิทธิพิเศษ! ลงทะเบียนรับรหัสจำนวนจำกัด เพื่อเข้าชมถ่ายทอดสดได้ที่ thestandard.co/events
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: