การระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2563 ซึ่งจนถึงวันนี้พบผู้ติดเชื้อสะสมไม่น้อยกว่า 2.5 หมื่นราย สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้การดำเนินชีวิตประจำวันของเรา เหมือนย้อนกลับไปในช่วงที่เกิดการระบาดครั้งแรกอีกครั้ง

โรงเรียนต้องปิดชั่วคราว ขณะที่บางแห่งซึ่งอยู่ใกล้จุดระบาดหนักต้องปิดเป็นเดือน การทำงานในออฟฟิศต้องเปลี่ยนไป มาตรการ Work from Home หรือการทำงานจากที่บ้านถูกนำมาใช้อีกครั้ง หรือกระทั่งการจะเดินทางไปหาพ่อแม่หรือผู้ใหญ่ที่เราเคารพก็ต้องเลื่อนออกไปก่อน เพราะไม่มั่นใจว่าตัวเราเองจะเป็นผู้นำเชื้อไปสู่ท่านหรือไม่ กลายเป็นว่าเราจำเป็นต้องรักษาระยะห่างกับคนรอบตัวไปโดยปริยาย

จากความเคยชิน ทำให้บทบาทของ LINE ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันสื่อสารของคนไทย และภารกิจ Closing The Distance ที่ต้องการทำให้คน ข้อมูล และเทคโนโลยีนั้นต่างเชื่อมโยงถึงกันได้อย่างง่ายดายชัดเจนมากขึ้นในชีวิตประจำวัน ให้ผู้คนสามารถดำเนินชีวิตเป็นปกติในหลายมิติมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิต การทำงาน ความสัมพันธ์กับคนรัก เพื่อน และครอบครัว

หลายคนอาจจะไม่รู้ว่า LINE เป็นแอปพลิเคชันที่เกิดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่น จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อปี 2554 ทำให้ระบบการสื่อสารขัดข้อง LINE จึงเกิดขึ้นมาเพื่อทำให้การสื่อสารง่ายดายตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา และเหมือนได้พิสูจน์หน้าที่ตัวเองอีกครั้งในเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโรคในครั้งนี้

LINE จึงแทบจะเป็นเหมือน ‘ปัจจัยที่ห้า’ ในยุคที่ผู้คนต้องการเข้าถึงการสื่อสารและข้อมูลเป็นกิจวัตร ได้เข้ามาช่วยสื่อสารในห้วงเวลาที่ผู้คนต้องใช้ชีวิตด้วยความห่างไกล

LINE จึงถือโอกาสทำแคมเปญ ‘Life From Home ยิ่ง LINE ยิ่งใกล้’ โดยเล่าผ่านคลิปวิดีโอ 4 เรื่อง จากอินไซด์ผู้ใช้จริง ซึ่งแต่ละเรื่องก็นำเสนอความสามารถของ ‘แชตแอปฯ’ ทั้ง Chat, LINE Call, LINE VDO Call Group และ LINE Meeting

เพื่อป้องกันการนำโรคไปติดให้กับผู้ใหญ่ที่บ้านโดยที่เราไม่รู้ตัว หลายคนจึงเลือกที่จะไม่กลับบ้านจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น แต่ถึงเราจะไม่ได้กลับบ้านก็ตาม การติดต่อสื่อสารเพื่อบอกเล่าเรื่องราวในชีวิตและส่งต่อความห่วงใย ยังเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เสมอผ่าน LINE

คลิปแรกนี้เป็นเรื่องของ ‘ลูกสาวจอมห่วง กับคุณแม่สายฮา’ ซึ่งเป็นการเล่าโมเมนต์น่ารักๆ ระหว่างลูกสาวกับแม่ ซึ่งลูกสาวแจ้งคุณแม่ว่าไม่สามารถกลับบ้านได้ และขอให้คุณแม่รักษาสุขภาพ แต่ปรากฏว่าคุณแม่นั้นไปตลาด

เราจึงได้เห็นเห็นการพูดคุยตอบโต้กันแบบเรียลไทม์ระหว่างแม่-ลูก ที่มีทั้งการพิมพ์ การใช้สติกเกอร์รูปแบบต่างๆ ที่เสริมอรรถรสของการพูดคุย และสามารถเลือกใช้ในแต่ละสถานการณ์ ซึ่งมีทั้งแบบเคลื่อนไหว มีเสียง และ Big Sticker ตลอดจนการส่งรูปที่สามารถทำได้อย่างง่ายดาย และเกิดขึ้นทันทีโดยที่ไม่มีดีเลย์ให้เห็นเลย

ตัวห่างไกล… แต่ใจเราใกล้กันกว่าเดิม

บางครั้ง ‘การพิมพ์’ เพียงอย่างเดียวอาจไม่ทันใจ แถมเสี่ยงให้อีกฝ่ายเข้าใจผิดจากตัวหนังสือ ก็เลยต้องโทรเท่านั้น ‘LINE Call’ หรือการโทรไลน์จึงเป็นฟีเจอร์ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้การแชต

เชื่อว่าช่วงเทศกาลแห่งความรักที่ผ่านมา ต้องมีหลายคู่รักที่จำเป็นต้องอยู่ห่างกันเพราะความเป็นจำเป็น จึงต้องพูดคุยสื่อสารมากเป็นพิเศษเพื่อประคับประคองความสัมพันธ์ อย่างในเรื่อง ‘ให้ความใกล้กันเป็นของขวัญวาเลนไทน์’ ที่ใช้การพูดคุยระหว่างคู่รัก 2 คนเป็นตัวดำเนินเรื่อง เพื่อแสดงให้เห็นว่าการสื่อสารพูดคุยนั้นมีความหมายมากแค่ไหนสำหรับความสัมพันธ์ โดยเฉพาะเมื่อต้องห่างกัน

โดยสามารถทำได้ง่ายๆ ผ่าน LINE Call ซึ่งเปิดโอกาสให้เรานั้นสามารถโทรหากัน โดยที่ไม่ต้องจ่ายค่าโทรศัพท์ แถมใช้สะดวก แชตอยู่แล้วก็กด Call ได้เลย

ตัวห่างไกล… แต่มิตรภาพใกล้กว่าเดิม

ในเมื่อจำเป็นต้องปฏิบัติตามมาตรการรักษาระยะห่างต่อเนื่อง การออกเดินทางออกไปเที่ยวในช่วงนี้จึงต้องถูกเลื่อนออกไปชั่วคราวก่อน แต่จะอยู่แต่บ้านก็ดูจะเป็นเรื่องที่น่าเบื่อเกินไป ดังนั้นแม้ตัวจะไม่ได้ไปจริงๆ แต่ก็ใช่ว่าเราจะไม่สามารถสัมผัสบรรยากาศเหล่านั้นได้

ดังนั้น ‘สถานที่ ไม่สำคัญเท่าอินเนอร์’ จึงเป็นการเล่าผ่านกลุ่มเพื่อนที่มีคนหนึ่งในกลุ่มหลอกว่าได้ไปเที่ยว แต่ใครจะเชื่อ ดังนั้นจึงต้องพิสูจน์ด้วย LINE VDO Call Group ซึ่งจะว่าไปแล้วการได้ประชุมสาย เปิดกล้องกับกลุ่มเพื่อนซี้ ก็บรรเทาความเฉาเมื่ออยู่บ้านไปได้มาก

ซึ่งด้วยฟังกชัน ทำให้แม้ตัวจะไม่ได้ไป ก็สามารถสร้างบรรยากาศโดยเปลี่ยนพื้นหลังเสมือนกับเราได้ไปเยือนจริงๆ ได้ ที่สำคัญยังเสริมด้วย Filter Effect ต่างๆ ทำให้สถานที่ไม่ได้สำคัญเท่าอินเนอร์ที่แสดงออกมา

ตัวห่างไกล… แต่ความเป็นทีมแนบแน่นกว่าเดิม

หลายออฟฟิศมีคำสั่งให้พนักงานสามารถ Work from Home หรือทำงานจากที่บ้านได้ไปยาวๆ

แน่นอนว่าเมื่อทำงานจากที่บ้าน ก็สามารถชิล ไม่ต้องแต่งตัว แต่งหน้า แต่ก็ยังต้อง ‘เปิดกล้อง’ ประชุมงานอยู่ดี ซึ่งเปิดกล้องประชุมนี่แหละ ถือเป็นเรื่องใหญ่ของใครหลายคน เพราะไม่อยากโชว์หน้าสด แต่คลิป ‘ประชุมวุ่นวาย เมื่อเจ้านายให้เปิดกล้อง’ ก็ทำให้เราเห็นว่า LINE Meeting ซึ่งเป็นฟีเจอร์ประชุมงานกลุ่มนั้นมี Filter Effect และภาพพื้นหลังมาให้เลือกใช้ ก็ช่วยให้กล้าเปิดกล้องมากยิ่งขึ้น แถมยังสร้างสีสันให้กับการประชุมอีกด้วย

แต่มากกว่านั้น นอกจากเรื่องฟีเจอร์ที่มาสร้างสีสันให้ผู้ใช้ LINE Meeting ยังชูบทบาทเป็นสื่อกลางให้เจ้านาย ลูกน้อง หรือเพื่อนร่วมงานมาอยู่ร่วมกัน แม้จะไม่ได้เจอหน้ากันนาน เพราะ Work from Home หลายคนคิดถึงเพื่อน คิดถึงออฟฟิศ มาเจอกันบน LINE Meeting ก็สามารถทำให้ความเป็นทีมแนบแน่นกว่าเดิมได้เหมือนกัน

คลิปวิดีโอทั้งหมดเป็นการหยิบฟังก์ชันของ LINE ที่ถูกนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน และยังเป็นตอกยํ้าความสำคัญของ LINE ที่แม้เราจะใช้ทุกวันจนชิน แต่ก็ขาดไปไม่ได้ เสมือนเป็นปัจจัยที่ห้าไปเสียแล้ว

#LINEThailand #ยิ่งLINEยิ่งใกล้

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล