วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 บมจ. ปตท. (PTT) รายงานกำไรสุทธิ 4Q63 ที่ 1.31 หมื่นล้านบาท ลดลง 25%YoY และ 6.9%QoQ ต่ำกว่าตลาดคาด เนื่องจากมีผลขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์ที่สูงกว่าคาด และมีการรับรู้ผลขาดทุนด้อยค่าของสินทรัพย์เพิ่มอีก 7.7 พันล้านบาท (ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในธุรกิจถ่านหินจำนวน 6.8 พันล้านบาท) หากตัดรายการพิเศษออกไป กำไรจากการดำเนินงานจะเพิ่มขึ้น 18%YoY และ 12%QoQ โดยได้รับการสนับสนุนจากธุรกิจก๊าซและธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น (P&R)
ธุรกิจก๊าซมีปริมาณการขายใน 4Q63 ลดลง 10%YoY และ 4%QoQ เนื่องจากความต้องการไฟฟ้าที่ลดลง โดยเฉพาะในกลุ่มโรงไฟฟ้า IPP รวมถึงอุปสงค์ก๊าซจากธุรกิจ NGV ก็ปรับตัวลง 24%YoY และ 2%QoQ ขณะที่โรงแยกก๊าซ (GSP) ทำผลงานได้ดีขึ้น โดยได้แรงหนุนจากอัตราการใช้กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น และราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งช่วยให้ธุรกิจนี้มีอัตรากำไรที่ดีขึ้น
ธุรกิจ P&R ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง เพราะส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปรับตัวดีขึ้น หลักๆ คือโพลีเอทิลีนและอะโรเมติกส์ ขณะที่กำไรของบริษัทร่วมทุนที่ประกอบธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันยังคงอ่อนแอแต่ได้รับการชดเชยบางส่วนจากพรีเมียมของต้นทุนน้ำมันดิบที่ลดลงและมีกำไรจากสต๊อกน้ำมัน
สำหรับธุรกิจน้ำมันเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนจากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น 4%QoQ แต่ยังลดลง 12%YoY โดยหลักๆ มาจากอุปสงค์ของน้ำมันดีเซลและน้ำมันอากาศยานที่เริ่มฟื้นตัวและยังได้ปัจจัยหนุนจากการเปิดสาขาเพิ่มขึ้น 29 แห่งใน 4Q63 ทั้งนี้ราคาน้ำมันที่สูงขึ้น และ Lag time ในการปรับราคาขายปลีกน้ำมันส่งผลทำให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวลง 14%QoQ สู่ระดับ 1.04 บาทต่อลิตร แต่มีกำไรสต๊อกน้ำมันบางส่วนรวมอยู่ด้วยใน 4Q63
กระทบอย่างไร:
เมื่อวานนี้ (19 กุมภาพันธ์) ราคาหุ้นปรับตัวลง 1.23%DoD สู่ระดับ 40.00 บาท หลังรายงานผลประกอบการต่ำกว่าตลาดคาดไว้ที่ 1.5 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ยังได้ปัจจัยกดดันจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวลง 1%DoD ในวานนี้สู่ระดับ 60.52 USD/bbl
มุมมองระยะสั้น:
SCBS เชื่อว่าสถานการณ์เลวร้ายสุดสำหรับ PTT ได้ผ่านพ้นไปแล้ว และคาดว่าแนวโน้มกำไร 1Q64 จะฟื้นตัวดีขึ้นทั้ง YoY และ QoQ โดยได้ปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของอุปสงค์จากฐานต่ำในปี 2563 รวมถึงใน 1H64 ไม่มีแผนซ่อมบำรุงโรงแยกก๊าซ (GSP) ซึ่งจะช่วยสนับสนุนธุรกิจก๊าซได้อย่างมากในช่วงที่อุปสงค์และส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีปรับตัวเพิ่มขึ้น
มุมมองระยะยาว:
ผู้บริหาร PTT คาดว่าราคาก๊าซจะลดลง 6%YoY ในปี 2564 เนื่องจากอุปสงค์มีทิศทางทรงตัว YoY ซึ่งอาจเป็นความเสี่ยงต่อธุรกิจจัดหาและจัดจำหน่ายก๊าซ แต่อย่างไรก็ดี SCBS คาดว่าปริมาณการขายก๊าซจะค่อยๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจจะค่อยๆ กลับคืนสู่ภาวะปกติ
สำหรับธุรกิจผลิตและสำรวจ (PTTEP) จะได้ปัจจัยสนับสนุนจากทิศทางราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นและมีเสถียรภาพมากขึ้น รวมทั้งปริมาณการขายจะค่อยๆ ปรับตัวขึ้นในระยะกลาง ซึ่งเกิดจากการพัฒนาโครงการใหม่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ในระยะยาว PTT ได้มุ่งเน้นไปที่ธุรกิจก๊าซมากขึ้น ซึ่งเป็นธุรกิจที่กระแสเงินสดมีเสถียรภาพมากกว่าและอุปสงค์เติบโตอย่างต่อเนื่องและชัดเจนจากแผน PDP ฉบับใหม่ที่กำหนดให้โรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าเป็นส่วนใหญ่ในการผลิตไฟฟ้าให้กับประเทศไทยในระยะ 17 ปีข้างหน้า
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า