กลุ่มตลาดหลักทรัพย์ฯ ขยายมาตรการช่วยเหลือบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ต่อเนื่องในปี 2564 โดยขยายระยะเวลาลดค่าธรรมเนียมนายทะเบียนรายปีแก่ บจ. และลดค่าธรรมเนียมรายปีแก่ บจ. ที่ให้ข้อมูลผู้ลงทุนผ่านกิจกรรม Opportunity Day รวมทั้งเพิ่มมาตรการลดค่าธรรมเนียมนายทะเบียนแก่ บจ. ที่ใช้ระบบงานดิจิทัลเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ทั้งนี้ เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของ บจ. เริ่มมกราคมนี้
ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมทั่วโลก รวมถึง บจ. ไทย ซึ่งปีที่ผ่านมา บจ. มีการเตรียมพร้อมและปรับกลยุทธ์ให้ดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง แต่ภาระค่าใช้จ่ายยังคงเป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลต่อการดำเนินงาน
ล่าสุดกลุ่มตลาดหลักทรัพย์ฯ ขยายมาตรการลดภาระค่าใช้จ่าย บจ. รวมถึงกองทุนรวมอสังหาริมทัรพย์ (Property Fund) ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (IFF) ในปี 2564 ดังนี้
1. ขยายระยะเวลามาตรการลดค่าธรรมเนียมรายปี ได้แก่ 1.1 ลดค่าธรรมเนียมนายทะเบียน (TSD Annual Registrar Fee) 10% สำหรับหลักทรัพย์จดทะเบียนใน SET และ mai 1.2 ลดค่าธรรมเนียม บจ. รายปีสูงสุด 20% ไม่เกิน 200,000 บาทแก่ บจ. ที่ให้ข้อมูลแก่ผู้ลงทุนผ่านกิจกรรม Opportunity Day
2. เพิ่มมาตรการใหม่ โดยลดค่าธรรมเนียมนายทะเบียนเพิ่มเติมสูงสุด 15% สำหรับ บจ. ที่เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน โดยใช้ระบบงานดิจิทัลตามแนวทางที่กลุ่มตลาดหลักทรัพย์ฯ สนับสนุนภายในปี 2564 โดยนำไปหักลดค่าธรรมเนียมในปีต่อไป ได้แก่ 1. จัดทำข้อมูลทางการเงินรายไตรมาสผ่านระบบ FSCOMP (Financial Statement Comparability) เพื่อนำส่งรายงานที่เป็นมาตรฐานเปรียบเทียบได้ 2. ใช้ QR Code ส่งแบบข้อมูลรายงานประจำปีสำหรับการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น (AGM) 3. ใช้ e-Proxy Voting สำหรับการประชุม AGM และ 4. ปฏิบัติงานนายทะเบียนตามแนวทางสนับสนุนของ TSD เพื่อลดขั้นตอนและค่าใช้จ่ายของธุรกิจ
“ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มุ่งพัฒนาตลาดทุนให้เป็นประโยชน์ต่อทุกภาคส่วน ทั้งตลาดทุน สังคม และประเทศชาติ ให้เติบโตไปพร้อมกัน ภายใต้วิสัยทัศน์ ‘To Make the Capital Market ‘Work’ for Everyone’ และพร้อมสนับสนุนให้ผู้ร่วมตลาดทุนสามารถก้าวผ่านสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างแข็งแกร่งไปด้วยกัน ขณะเดียวกันยังเชื่อว่า บจ. จะได้รับประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานที่พัฒนาขึ้นสำหรับอุตสาหกรรม เพื่อเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจในระยะยาว” ภากร กล่าว
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า